ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,033.32 จุด ลดลง 2.53 จุด(-0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 28,826.98 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีแกว่งตัวในแดนบวกได้ตลอดช่วงเช้า โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 1,044.29 จุด จากนั้นช่วงบ่ายท้ายตลาดดัชนีปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,031.24 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 150 หลักทรัพย์ ลดลง 214 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 133 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบแคบ โดยเปิดตลาดฯมาเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกได้ตลอดช่วงเช้า ซึ่งก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในต่างประเทศ หลังได้รับแรงหนุนจากการที่จีนยังคงไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกผ่อนคลายลง แต่ทั้งนี้ในช่วงท้ายของการซื้อขายดัชนีก็ปรับตัวลดลงในแดนลบ
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ยังคงต้องติดตามก็คือปัญหาหนี้ในยุโรป และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพรุ่งนี้เกี่ยวกับตัวเลขเศรษฐกิจทั้งของสหรัฐฯและของโลก
ด้านปัจจัยในประเทศก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องการเมือง แต่พอพ้นสุดสัปดาห์ที่แล้วไปก็ไม่มีประเด็นอะไรที่น่าเป็นห่วง ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้แกว่งตัวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (14 ธ.ค.) น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงเทรดในกรอบไซต์เวย์ เพื่อรอปัจจัยใหม่เข้ามาขับเคลื่อน พร้อมให้แนวรับ 1,027 และ 1,020 จุด แนวต้าน 1,042-1,050 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,960.66 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 1,885.50 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,560.66 ล้านบาท ปิดที่ 74.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
IRPC มูลค่าการซื้อขาย 1,207.74 ล้านบาท ปิดที่ 5.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,190.67 ล้านบาท ปิดที่ 104.50 บาท ลดลง 2.00 บาท