นายสิริวัฒน์ โตวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น (MAX) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ถึงความคืบหน้าเจรจาซื้อโรงงานเหล็กว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอตัวเลขจากทางธนาคารเจ้าของทรัพย์ก่อน ซึ่งจากแผนงานกำหนดไว้ภายในปีนี้ แต่อาจจะเลื่อนไปเป็นปีหน้าราวไตรมาส 1/54 น่าจะมีคำตอบ
ด้านนายชำนิ จันทร์ฉาย ประธานกรรมการ MAX กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนได้มีการประชุมร่วมกับธนาคารเจ้าของทรัพย์สินซึ่งเป็นโรงงานเหล็กที่ตั้งอยู่ใน อ.พระประแดง ที่เราจะซื้อแล้ว เจ้าของหลักๆมีอยู่ 3-4 ธนาคาร มูลค่าตามราคาประเมินที่เจรจากันต้องเป็นราคาที่เหมาะสม
นายสิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 4/53 เชื่อว่าจะพลิกมาเป็นกำไรได้ เนื่องจากธุรกิจค้าเหล็กซึ่งเป็นธุรกิจหลักในขณะนี้มียอดขายมากกว่าไตรมาส 3 อย่างมีนัยสำคัญ เพราะมีเงินทุนหมุนเวียนที่เพิ่มทุนเข้ามาอีก 120 ล้านบาท จากเดิม 75 ล้านบาท โดยช่วง 9 เดือนแรกมียอดขายไตรมาสละ 150 ล้านบาท แต่หลังจากได้เงินเพิ่มทุนเข้ามาในไตรมาส 4/53 ทำให้ยอดขายเพิ่มเป็นเดือนละ 150 ล้านบาท หรือ 450 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 4/53 บริษัทยังต้องรับรู้ผลขาดทุนจากธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตรที่เลิกดำเนินงานไปแล้ว แต่เนื่องจากยอดขายเหล็กเพิ่มขึ้นอย่างนัยสำคัญก็น่าจะทำให้ผลประกอบการเป็นกำไรสุทธิได้ ซึ่งการรับรู้ผลขาดทุนจากธุรกิจเครื่องจักรกลเกษตรจะหมดไปในไตรมาส 1/54 หลังจากนี้ไปก็จะเบาตัว
แต่ทั้งนี้ผลประกอบการทั้งปี 53 ยังไม่แน่ว่าจะเป็นกำไรสุทธิได้หรือไม่ เนื่องจากงวด 9 เดือนยังขาดทุน
"ไตรมาส 3 ยังมีผลขาดทุนจากธุรกิจเกษตร แต่ธุรกิจค้าเหล็กมีกำไร ทำให้ยังมีผลขาดทุนอยู่แต่ไตรมาส 4 น่าจะพลิกเป็นกำไรเพราะเงินได้มาเยอะขึ้นเทรดดิ้งได้มากขึ้นก็จะมีกำไรจากธุรกิจเหล็กที่ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพราะเงินทุนเพิ่มขึ้น"นายสิริวัฒน์ กล่าว
นายสิริวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับแผนงานในปี 54 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท หรือเดือนละ 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ที่ 900-1,000 ล้านบาท ต้องรอดูเดือน ธ.ค.53 นี้ด้วย ซึ่งปีหน้าทั้งรายได้และกำไรก็จะเพิ่มขึ้นมากพอสมควร
"เราขอเพิ่มทุนเป็นเงินทุนหมุนเวียนไปแล้ว ถ้าจะเพิ่มอีกก็ต้องมีการจัดการแผนการเงินอีกที สถานการณฺ์เหล็กปีหน้าน่าจะดีตอนนี้ราคาเศษเหล็กน่าจะเริ่มปรับขึ้นแล้ว แต่ราคาตลาดตอนนี้ยังนิ่งๆ ทรงๆอยู่"นายสิริวัฒน์ กล่าว