บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ(IFEC)เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไตรมาส 1/54 กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาทใน จ.กาญจนบุรี ระหว่างนี้กำลังมองหาผู้ร่วมทุน คาดปี 54 รายได้เติบโต 10-15% รุกหนักทั้งตลาดภาครัฐและเอกชน ส่วนปีนี้มั่นใจกำไรสุทธิดีกว่าปีก่อนที่มี 70.7 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าปีก่อนที่ 0.10 บาท/หุ้น แม้ว่ารายได้จะพลาดเป้าไปเหลือเติบโต 10% จากเดิมคาดว่าจะเติบโตได้ 15-30% จากผลกระทบเศรษฐกิจผันผวน
นายณรงค์ เตชะไชยวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IFEC เปิดเผยว่า บริษัทมีแนวทางบริหารโครงการพลังงานทดแทน เริ่มจากโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ รวมถึงพลังงานลม และชีวมวล เป็นต้น ซึ่งจะบริหารภายใต้ บริษัท ไอเฟค กรีนเพาเวอร์ พลัส จำกัด ที่ IFEC ถือหุ้น 100% แต่ไอเฟค กรีนเพาเวอร์ จะอยู่ในฐานะผู้บริหารโครงการและร่วมทุนในแต่ละโครงการในสัดส่วนไม่มากนัก
ขณะนี้บริษัทอยู่ในระหว่างหาผู้ร่วมทุนโครงการแรก ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสดงอาทิตย์ มูลค่าโครงการประมาณ 1 พันล้านบาทที่จะเปิดตัวในต้นปีหน้า โดยประเมินอัตราผลตอบแทนการลงทุน 15% ในแต่ละโครงการ
"ไม่น่าเชื่อว่าโซล่าร์เซลล์ตอนนี้ขายดีมาก คือปีหน้าคน predict ว่าราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น ถ้าเราทำตรงนี้ได้ เราก็อยากเป็นบริษัทโฮลดิ้ง แล้วย้ายเข้าไปในหมวดพลังงาน ที่มี P/E ดีกว่า"นายณรงค์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายณรงค์ กล่าวว่า ในช่วงต้นปี 54 บริษัทยังมีแผนจะยื่นไฟลิ่งเพื่อออกและเสนอขาย TDR(Taiwan Depositary Receipt)ของบริษัท ซึ่งเป็นการขายหุ้นเดิมของผู้ถือหุ้นหลายรายรวมกันประมาณ 120-150 ล้านหุ้น จากหุ้นทั้งหมดที่มีอยู่ 407 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ การนำเสนอขาย TDR เป็นครั้งแรกนี้เป็นการนำร่องโดยใช้หุ้นเดิม ผู้ถือหุ้นเดิมจะได้เงินที่เสนอขาย TDR แต่บริษัทมองระยะยาวที่อาจจะระดมทุนผ่าน TDR เพิ่มเติมในอนาคต เพราะได้ราคาดีกว่าระดมทุนในตลาดหุ้นไทย เพื่อเป็นการรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต
"ตอนนี้กระบวนการเราทำไปได้ 60-70% แล้ว คิดว่า ไตรมาสแรกน่าจะยื่นต่อ ก.ล.ต.ที่ไต้หวันได้ และรออนุมัติว่าจะเสนอขายได้ช่วงไหน"นายณรงค์ กล่าว
ล่าสุด บริษัทได้แก้ไขข้อบังคับของบริษัทเกี่ยวกับการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นต่างด้าวมาเป็นไม่เกิน 49% จากเดิมไม่เกิน 30% ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนของผู้ถือหุ้นต่างประเทศไม่มาก แต่ถือผ่าน NVDR ประมาณกว่า 10%
สำหรับผลประกอบการปี 53 นายณรงค์ คาดว่า กำไรสุทธิปีนี้จะดีกว่าปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 35% แม้ว่ารายได้ปี 53 คาดว่าเติบโต 10% จากปีก่อน ต่ำกว่าเป้าหมายการเติบโตที่ตั้งไว้ในระดับ 15-30% เนื่องจากได้รับผลกระทบภาวะเศรษฐกิจผันผวนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ลูกค้ามีความไม่มั่นใจในการสั่งสินค้า แต่ก็เชื่อว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าปีก่อนที่ 0.10 บาท/หุ้น
อนึ่ง งวด 9 เดือนแรกของปี 53 บริษัทมีกำไรสุทธิ 59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกีบปีก่อนในช่วงเดียวกัน
นายณรงค์ คาดว่า ในช่วงไตรมาส 4/53 ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทจะออกมาดีกว่าไตรมาส 4/52 และไตรมาส 3/53 เพราะมีออร์เดอร์บางส่วนตกค้างมาจากไตรมาสก่อนหน้าที่จะต้องมาส่งมอบให้ลูกค้าในไตรมาสนี้ ทั้งในส่วนเครื่องให้เช่าและขาย เครื่องถ่ายเอกสาร
ขณะที่ในปี 54 คาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 10-15% จากปี 53 โดยบริษัทเน้นรุกตลาดเพิ่มขึ้นทั้งตลาดภาครัฐและเอกชน
IFEC เป็นผู้นำเข้า จำหน่าย และปล่อยเช่าสินค้า ประเภทเครื่องถ่ายเอกสารดิจิตอลมัลติฟังก์ชั่น และวัสดุสิ้นเปลืองยี่ห้อ"โคนิก้า มินอลต้า"