นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย(KTB) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารยังไม่มีแผนออกหุ้นกู้ไฮบริดหรือการเพิ่มทุน เพื่อเพิ่มสัดส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 เนื่องจากฐานะเงินกองทนุขั้นที่ 1 ของธนาคารในปัจจุบันยังแข็งแกร่ง โดยอยู่ในระดับ 9.7% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ อีกทั้งก่อนหน้านี้ธนาคารได้ออกหุ้นกู้ไฮบริด จำนวน 9 พันล้านบาทไปแล้ว ก็จะทำให้เงินกองทุนขั้นที่ 1 เพิ่มขึ้น
สำหรับแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายปี 54 นายอภิศักดิ์ มองว่า ยังเป็นขาขึ้น แต่จะปรับขึ้นเท่าใดขึ้นกับ ธปท.ที่จะดูแลรักษาสมดุลทางเศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่มองว่าปีหน้ายังมีปัจจัยเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ โดยด้านต่างประเทศยังคงเป็นปัจจัยการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป ซึ่งทุกฝ่ายกำลังเร่งแก้ไขปัญหา และยังมีปัจจัยเสี่ยงราคาน้ำมันที่มีสัญญาณปรับขึ้นที่เป็นเรงกดดันด้วยเช่นกัน
ส่วนปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศ เป็นเรื่องดอกเบี้ย รวมถึงเสถียรภาพการเมือง
อย่างไรก็ตาม นายอภิศักดิ์ มองว่า การที่รัฐบาลประกาศขึ้นเงินเดือนข้าราชการและค่าแรงขั้นต่ำ เชื่อว่าน่าจะทำให้ประชาชนและข้าราชการมีรายได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีการใช้จ่ายมากขึ้น หลังจากมองว่าขณะนี้การใช้จ่ายภาคเอกชนยังไม่ขยายตัวมากนัก ซึ่งการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการและค่าแรง น่าจะทำให้การาขยายตัวของภาคเอกชนดีขึ้น
ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนก็ยังขายตัวได้ไม่ดี สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ ยอมรับว่าบางกลุ่มการปล่อยสินเชื่อมีการหดตัวชัดเจนและธนาคารต้องระวังการปล่อยสินเชื่อ แต่ในบางกลุ่มก็ยังมีการปล่อยสินชื่อที่ดีต่อเนื่อง ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อลูกค้าที่มีขอกู้ซื้อบ้าน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและผู้มีเงินเดือนประจำ
"แนวโน้มดอกเบี้ยปี 54 ยังเป็นขาขึ้น ซึ่งเชือ่ว่าแบงก์ชาติก็ดูอยู่ แต่คิดว่าคงปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไม่มาก คงเป็นการทยอยขึ้น ไม่ปรับขึ้นไปมากนัก"กรรมการผู้จัดการใหญ่ KTB กล่าว