ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 41.78 จุด หลังจำนวนคนว่างงานสหรัฐลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 17, 2010 06:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ร่วงลงสัปดาห์ที่แล้ว และตัวเลขการก่อสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากบริษัท เฟดเอ็กซ์ คอร์ป ที่ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 41.78 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 11,499.25 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 7.64 จุด หรือ 0.62% แตะที่ระดับ 1,242.87 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 20.09 จุด หรือ 0.77% แตะที่ 2,637.31 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานสัปดาห์ที่แล้วลดลง 3,000 ราย แตะระดับ 420,000 ราย ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลงแตะระดับ 422,750 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 และทำสถิติลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ตัวเลขการก่อสร้างบ้านในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 3.9% แตะระดับ 555,000 หลัง หลังจากปรับตัวลดลงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากบริษัท เฟดเอ็กซ์ คอร์ป ที่ประกาศเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากธุรกิจและฐานลูกค้าขยายตัวขึ้น ซึ่งข่าวดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่สดใส และได้หนุนหุ้นเฟดเอ็กซ์ปิดบวก 1.9% เมื่อคืนนี้ด้วย

ส่วนหุ้นบริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตปิดร่วงลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เสนอให้มีการเพิ่มค่าธรรมเนียมจากบริษัทบัตรเครดิต ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทบัตรเครดิตรายใหญ่อย่าง วีซ่า อิงค์ และมาสเตอร์การด์ อิงค์ โดยหุ้นวีซ่าปิดร่วง 12.7% หุ้นมาสเตอร์การด์ปิดลบ 10.3% และหุ้นอเมริกัน เอ็กเพรสปิดลบ 3.4%

นักลงทุนจับตาดูการประชุมผู้นำยุโรปที่เมืองบรัสเซลล์ในวันนี้ โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับการสร้างกลไกลถาวรเพื่อสนับสนุนประเทศที่ประสบับปัญหาด้านการเงิน อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ในวงกว้างว่า ที่ประชุมอาจจะไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนในเรื่องการแก้ปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจมากที่สุดในยุโรป ได้คัดค้านแผนการเพิ่มวงเงินในกองทุนกู้ยืมฉุกเฉินซึ่งปัจจุบันมีมูลค่า 7.50 แสนล้านยูโร และแผนการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลยุโรป

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า รัฐบาลสเปนได้นำพันธบัตรอายุ 10 ปี และ 15 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรล็อตสุดท้ายสำหรับปีนี้ออกมาจำหน่ายเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะระดมทุนให้ได้ถึง 3 พันล้านยูโร (4 พันล้านดอลลาร์) แม้มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสเปนก็ตาม ซึ่งความพยายามของรัฐบาลสเปนในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่า สเปนสามารถระดมทุนได้เพียงพอต่อการปรับโครงสร้างหนี้ในปี 2554

สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ย.ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ