ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) จากการที่นักลงทุนเทขายหุ้นบีพี หลังจากรัฐบาลสหรัฐยื่นเรื่องฟ้องดำเนินคดีกับบีพี กรณีแท่นขุดเจาะน้ำมันของบีพีระเบิดจนทำให้น้ำมันจำนวนมากรั่วไหลลงอ่าวเม็กซิโก นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดยังถูกกระทบจากความกังวลเรื่องปัญหาหนี้ยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลง 1.06 จุด หรือ 0.02% แตะที่ 5,881.12 จุด หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 5,862.86 - 5,907.10 จุด
หุ้นบีพี ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ปิดร่วง 1.4% หลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องบีพี และบริษัทน้ำมันรายอื่นๆ อีก 8 แห่ง ต่อศาลรัฐบาลกลางในนิวออร์ลีนส์ กรณีแท่นขุดเจาะน้ำมัน Deepwater Horizon ระเบิดเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา จนเกิดน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโกและส่งผลให้เกิดความเสียหายทางทะเลครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ
นอกจากนี้มีรายงานว่า ก่อนหน้าที่รัฐบาลสหรัฐจะยื่นฟ้องบีพี มีประชาชนหลายพันคนรวมถึงภาคธุรกิจขนาดเล็กได้ยื่นเอกสารฟ้องร้องบีพีต่อศาลรัฐบาลกลางในนิวออร์ลีนส์ด้วยเช่นกัน ขณะที่สื่อของสหรัฐรายงานการยื่นเอกสารฟ้องร้องกว่า 300 กรณีที่เกี่ยวข้องกับเหตุน้ำมันรั่วไหล
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากราคาโลหะทองแดงในตลาดนิวยอร์กปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วัน โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ของโลก ร่วงลง 0.8% หุ้นอันโตฟากัสต้าปิดร่วง 2.1%
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า อัตราว่างงานในอังกฤษช่วงไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนตุลาคมปรับตัวสูงขึ้นแตะ 7.9% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม และเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสแรกนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนเมษายนปีที่แล้ว