นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริหาร บลจ.ฟินันซ่า กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM)ในปี 54 เพิ่มขึ้นเป็น 4.5 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท และคาดว่าภายในอีก 3 ปีข้างบริษัทฯจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานได้ และยอดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านบาท
แผนการดำเนินงานในปี 54 บริษัทฯยังคงเน้นขยายการเติบโตในส่วนของงานบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่ปัจจุบันมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และมีลูกค้าประมาณ 7 หมื่นบัญชี ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเอกชน ซึ่งบริษัทฯมีแผนจะสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ มากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มรัฐวิสาหกิจ โดยจะเน้นการให้ความรู้กับลูกค้าเป็นสำคัญผ่านการช่องทางการโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ รวมถึงจะมีการออกโปรโมชั่นใหม่ๆควบคู่ไปด้วย
ส่วนกองทุนรวมปัจจุบันมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาท มองว่าในปีหน้าคงจะเติบโตได้ไม่มากนัก เนื่องจากบริษัทฯไม่ได้มีฐานลูกค้ามากเหมือนกับ บลจ.อื่นๆที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ เช่นเดียวกับกองทุนส่วนบุคคล ยังมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารค่อนข้างน้อยประมาณ 1 พันล้านบาท
และช่วงต้นปี 54 บริษัทฯมีแผนออกกองทุนเพื่อการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 2 กองทุน โดยกองทุนฯแรกจะเป็นกองทุนจะลงทุนในกองทุนของโกลด์แมนแซคส์ ซึ่งมีนโยบายเลือกลงทุนในหุ้นรายตัวของกลุ่มประเทศ BRIC ซึ่งประกอบไปด้วย บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย และจีน
ส่วนอีกกองทุนจะร่วมมือกับทาง UBS โดยจะเน้นการลงทุนในเอเชียเป็นหลัก และจะเลือกลงทุนในหุ้นของกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าประเภทไลฟ์สไตล์ ทั้งนี้ บริษัทฯมองว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจของเอเชียจะมีการเติบโตสูงสุดโดยเฉพาะประเทศอินเดียและจีน
อย่างไรก็ตาม นายธีระพันธ์ กล่าวว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมกองทุนในปี 54 จะชะลอตัวลงตามแรงซื้อของนักลงทุนที่คาดว่าจะลดลง โดยเฉพาะหากธนาคารพาณิชย์มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็จะทำให้นักลงทุนหันไปฝากเงินกับทางธนาคารพาณิชย์มากขึ้น