ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่าดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หดตัวลงในเดือนพ.ย. ขณะที่หุ้นกลุ่มบริษัทบัตรเครดิตร่วงลงอย่างหนักหลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดวางแผนที่จะจำกัดเพดานค่าธรรมเนียมที่บริษัทบัตรเครดิตเรียกเก็บจากร้านค้า อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า กฎหมายลดหย่อนภาษีของสหรัฐจะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 13.78 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 11478.13 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.17 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 1247.08 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 6.59 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 2649.56 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 830 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกและหุ้นลบในอัตราส่วนเกือบเท่ากัน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกกดดันจากรายงานของเฟดที่ระบุว่า ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วประเทศของสหรัฐเดือนพ.ย.ลดลงสู่ระดับ -0.46 จุด จากเดือนต.ค.ที่ระดับ -0.25 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราว่างงานที่สูงขึ้น รวมทั้งภาวะซบเซาในตลาดที่อยู่อาศัย และอัตราการอุปโภคบริโภคที่ชะลอตัวลง
วอลุ่มการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่เพียงบางเบา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงวันหยุดในช่วงเทศกาลคริสต์มาส อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนขานรับประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ ที่ลงนามบังคับใช้กฎหมายขยายโครงการลดหย่อนภาษีของผู้มีรายได้ทุกระดับชั้นออกไปอีก 2 ปี หลังจากที่ยอมประนีประนอมทำข้อตกลงกับแกนนำพรรครีพับลิกันในการขยายโครงการนี้ที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ริเริ่มไว้ โดยกฏหมายฉบับดังกล่าวมีมูลค่ารวม 8.58 แสนล้านดอลลาร์
ถึงกระนั้นก็ตาม แม้โอบามาเชื่อมั่นว่า การขยายโครงการลดหย่อนภาษีจะเป็นประโยชน์ต่อชาวอเมริกันและจะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่า มูดีส์อาจลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐที่ระดับ Aaa เพราะเกรงว่าการขยายโครงการลดหย่อนภาษีอาจส่งผลให้ยอดขาดดุลงบประมาณและตัวเลขหนี้สาธารณะของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก
หุ้นกลุ่มบริษัทบัตรเครดิตร่วงลงอย่างหนัก หลังจากนักวิเคราะห์ของสตีเฟล นิโคลัส แอนด์ โค ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นกลุ่มดังกล่าว หลังจากมีรายงานว่าคณะกรรมการเฟดวางแผนที่จะจำกัดเพดานค่าธรรมเนียมที่บริษัทบัตรเครดิตเรียกเก็บจากร้านค้า โดยหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ปิดร่วง 3.4%
ส่วนโบอิ้ง อิงค์ ปิดร่วง 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า สายการบินบางแห่งได้ยกเลิกคำสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777 จำนวน 3 ลำ และเครื่องบินโบอิ้ง 787 จำนว 1 ลำ
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร ABC News จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ธ.ค. วันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณจีดีพีไตรมาส 3 ครั้งสุดท้าย และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.
วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย. และยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจเพราะตลาดหุ้นและตลาดการเงินของสหรัฐจะปิดทำการเนื่องในวันคริสต์มาส