นางสาวศิริพรรณ สุทธาโรจน์ หัวหน้าฝ่ายจัดการลงทุน-ตลาดทุน บลจ.ไอเอ็นจี ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในปี 54 คาดว่าจะอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก หลังมองว่าแนวโน้มการเติบโตในด้านกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนยังมีอัตราที่ดี และมองว่า PE ตลาดหุ้นไทยจะอยู่ที่ 12 เท่า ถือว่าใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย PE ของภูมิภาคที่ระดับ 12.6-12.7 เท่า
แต่ก็มองว่าในปี 54 ค่า PE ของตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นไปที่ 14 เท่า ซึ่งจะทำให้ดัชนี SET อยู่ที่ระดับ 1,150-1,200 จุด โดยปัจจัยบวกที่จะช่วยขับเคลื่อนดัชนีในปีหน้ามาจากการเติบโตของเศรษฐกิจที่กลับมาสู่ระดับปกติ ทำให้มีการลงทุนของภาครัฐและเอกชนมากขึ้น ไม่ต้องพึ่งพาการส่งออกเพียงอย่างเดียวเหมือนในปีนี้ และผลการดำเนินงานของภาคธุรกกิจที่คาดว่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเม็ดเงินต่างประเทศก็ยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ซึ่งเป็นผลจากการออกมาตรการ QE ของสหรัฐและยุโรป
ส่วนปัจจัยเสี่ยง คือ มาตรการที่อาจจะนำมาใช้ควบคุมเงินทุนไหลเข้า เพื่อไม่ให้กระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจ รวมทั้งการโยกย้ายเงินทุนต่างชาติไปยังตลาดหุ้นที่ laggard อย่างตลาดหุ้นสหรัฐ หรือตลาดหุ้นยุโรปบางแห่ง ส่วนในเอเชียก็มีตลาดหุ้นจีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน เป็นต้น
กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจลงทุนในระยะยาว ได้แก่ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายของภาครัฐ เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ได้แก่ กลุ่มธนาคาร นอกจากนั้น ผลของมาตรการ QE น่าจะทำให้กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และปิโตรเคมีได้รับประโยชน์จากราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งกลุ่มพลังงานก็ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อไปได้
นายแกรนท์ แอนดรูว์ ไบเลย์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ไอเอ็นจี อินเวสท์เม้นท์ แมเนจเม้นท์ เอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า บริษัทได้แต่งตั้งนายจุมพล สายมาลา ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไอเอ็นจี ประเทศไทย จำกัด ตั้งแต่ 4 ม.ค.54 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปตามแผนบริหารจัดการของไอเอ็นจีฯ เพื่อเป็นการมุ่งขยายฐานธุรกิจบริการจัดการการลงทุนและการยกระดับให้เป็นองค์กรชั้นนำ
ทั้งนี้ บริษัทได้รับการคัดเลือกเป็นผู้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 2 กองทุน มูลค่ากว่า 7.3 พันล้านบาท ได้แก่ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ประเภทหุ้นทุน มูลค่ากองทุน 5.7 พันล้านบาท ต่ออายุการบริหารไปอีก 3 ปี และ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ประเภทหุ้นทุน มูลค่ากองทุนประมาณ 1.6 พันล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี
บริษัทยังเปิดตัวกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ไอเอ็นจี อินเวสเตอร์ ชอยส์ ซึ่งมีรูปแบบที่มีความยืดหยุ่นหลากหลายนโยบายลงทุน รวมถึงมีระบบการดูแลจัดการข้อมูลสมาชิกที่ใช้งานง่าย เพื่อประโยชน์สูงสุดของนายจ้างและสมาชิก โดยสมาชิกจะสามารถเลือกรูปแบบการลงทุนให้สอดคล้องกับความต้องการของตัวเอง ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 54