นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจหลักทรัพย์ปี 54 การแข่งขันไม่น่าจะรุนแรงมาก และการแย่งตัวเจ้าหน้าที่การตลาด(มาร์เก็ตติ้ง)จะมีน้อยลง เพราะโบรกเกอร์กังวลการแย่งตัวมาร์เก็ตติ้งและการตัดราคา เนื่องจากทั้ง 2 ประเด็นนี้สร้างปัญหา แต่เมื่อมูลค่าการซื้อขายดีขึ้น ก็ทำให้การขยายฐานลูกค้าก็ไม่เกิดสงครามราคา จากต้นปีนี้แข่งขันรุนแรง
ทั้งนี้ มองว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ยังน่าจะไปได้ดี แต่อาจจะชะลอความร้อนแรงลงจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยถือว่าแพงแล้ว และมองว่าเงินทุนจากต่างประเทศคงไม่มากเท่าปีนี้
แต่ก็ขึ้นกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนหากยังเติบโตได้ดีก็จะช่วยสนับสนุนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่ากำไรของบริษัททะเบียนในปีหน้ายังเติบโตได้ 10-15%
"ปีหน้าหุ้นยังขึ้นได้อยู่ถ้ากำไรบริษัทจดทะเบียนยังโต 10-15% จะเห็น 2 ปีนี้กำไรก็โต PE ก็โต...แต่ปีทองคงหมดไปแล้วเพราะปี 2009 ดัชนีขึ้น 60% ปีนี้ขึ้น 40% เมื่อรวม 2 ปีดัชนีปรับขึ้น 100% แล้ว ถ้าวอลุ่มเทรดเกิน 2 หมื่นล้านบาท/วันขึ้นไป ถือว่ายังดีอยู่"นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ คาดว่า ในปีหน้าเงินทุนต่างประเทศน่าจะไหลกลับไปที่ตลาดพัฒนาแล้ว หลังตลาดเกิดใหม่ปีนี้ (53) ดีมาก outperform และ PE เกือบเท่ากับตลาดที่พัฒนาแล้ว ซึ่งโดยพื้นฐานไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น ทำให้อาจมีการโยกย้ายเงินทุนต่างชาติไปยังสหรัฐหากมีสัญญาณดีขึ้นจาก bond yield ที่สูงขึ้น เห็นได้จากเมื่อดอลลาร์กลับมาแข็งช่วงสั้นเงินก็จะไหลกลับไปชั่วคราว
ปัจจัยที่ต้องจับตาคือเรื่องอัตราเงินเฟ้อ เพราะนักลงทุนต่างประเทศมักจะไม่เข้าไปลงทุนในประเทศที่มีปัญหาเงินเฟ้อ เพราะฉะนั้นปีหน้าอัตราเงินเฟ้อในประเทศเร่งตัวขึ้น ก็คงต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาก คนก็จะหันไปประเทศที่เงินเฟ้อไม่สูงและยังไม่มีแนวโน้มปรับดอกเบี้ยมาก ทำให้ปีหน้ามีความเสี่ยงหลายเรื่อง