นายไพโรจน์ วโรภาศ รองประธานกรรมการบริหหาร บมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 54 เกือบ 1 หมื่นล้านบาท จากปี 53 ที่คาดว่าจะมีรายได้กว่า 6 พันล้านบาท และหากบริษัทได้รับงานวางโครงข่ายระบบ 3G ของบมจ.ทีโอที ก็อาจจะทำให้รายได้ในปีหน้ามีสิทธิเพิ่มเป็น 1.5 หมื่นล้านบาทได้
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ(backlog)ประมาณ 6-7 พันล้านบาท จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ภายในปีนี้ และบริษัทยังมีแผนเข้าประมูลงานอื่น ๆ เพิ่มเติมมูลค่าหลายพันล้านบาท อาทิ งาน AMR เฟส 2 มูลค่างานประมาณกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งในเฟสแรกบริษัทได้รับงานจากเจ้าของมาแล้ว ทำให้มั่นใจว่าจะได้รับงานในเฟส 2 เช่นกัน
บริษัทยังได้เข้าซื้อซองประกวดราคางานวางโครงข่ายระบบ 3G ของทีโอทีแล้วตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยบริษัทคาดว่าจะร่วมกับบมจ.ล็อกซเล่ย์(LOXLEY)ในการยื่นซองประกวดราคาในวันที่ 10 ม.ค.54 เบื้องต้นคาดว่าจะรู้ผลประมูลภายใน มี.ค.54
"ล็อกซเล่ย์ก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะจับมือกับเรา แต่ผมก็คิดว่าผู้ประกอบการต่าง ๆ ก็ยังไม่นิ่ง แต่ถ้าถามว่าเราจะจับมือกับใครก็น่าจะเป็นล็อกซเล่ย์ ซึ่งล็อกซเล่ย์ก็ทำงานด้านเทเลคอมมานาน มีประสบการณ์ เมื่อร่วมกันยื่นก็จะมาแบ่งงานกัน แต่ในส่วนอุปกรณ์จะใช้จากใครก็คงต้องมาดูกันอีกที"นายไพโรจน์ กล่าว
ในส่วนของกลุ่มสามารถ ตั้งเป้ารายได้ปี 54 ที่ราว 2 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งรายได้มีทิศทางเติบโตขึ้นจากปีนี้ตามการเติบโตของบริษัทลูก ทั้งในส่วน SAMTEL และบมจ.สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) และในปี 54 จะมีการลงทุนในส่วนของพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นธุรกิจโรงไฟฟ้า