นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบเช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเป็นช่วงปลายปีทำให้บรรยากาศการลงทุนค่อนข้างชะลอตัวและตลาดฯหลายแห่งวันนี้ยังคงปิดทำการ
ส่วนประเด็นเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนอีก 0.25% เมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นไปตามคาด แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นเร็วกว่าที่มองว่าน่าจะเป็นช่วงต้นปีหน้า แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อตลาดฯมากนัก การปรับขึ้นดอกเบี้ยของจีนในครั้งนี้เป็นการลดความร้อนแรงของอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้การบริโภคของจีนชะลอลงด้วย ก็ต้องติดตามต่อไปว่าทางจีนจะมีมาตรการที่เข้มงวดในการดูแลเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่
ด้านราคาน้ำมันก็ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง เป็นไปตามภาวะอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐฯและยุโรป ขณะที่ปัจจัยในประเทศขณะนี้ยังไม่มีประเด็นใหม่ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนตลาด
พร้อมให้แนวรับ 1,016 และ 1,010 จุด แนวต้าน 1,025 และ 1,034 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(23 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,573.49 จุด เพิ่มขึ้น 14.00 จุด(+0.12%)เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,256.77 จุด ลดลง 2.07 จุด(-0.16%)ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,665.60 จุด ลดลง 5.88 จุด(-0.22%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 434.89 ล้านบาทเมื่อ 24 ธ.ค.53
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 91.51 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์
- สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ธนาคารกลางจีนประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศ ทั้งเงินฝากและเงินกู้ประเภท 1 ปี ขึ้นอีก 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2.75% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 5.81% ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากอัตราเงินเฟ้อของจีนในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทำสถิติสูงสุดในรอบ 28 เดือน ที่ระดับ 5.1%
- "อภิสิทธิ์"ประเมินราคาน้ำมันขยับไม่หยุด ส่งสัญญาณหั่นภาษีสรรพสามิตดีเซล 2 บาทต่อลิตร หลังเดือนก.พ.54 หวังตรึงราคาไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท กดราคาสินค้าไม่ให้ขยับ ด้านแบงก์ชาติค้านรัฐบาลบิดเบือนกลไกราคา ส่งผลพฤติกรรมผู้บริโภค อัดโครงการประชานิยม ทำคนเสพติด ระบุหากทำจริงควรอยู่ในกรอบที่คนรับได้ พร้อมกำหนดกลุ่มคนอย่าเหวี่ยงแห หวั่นงบลงทุนถูกกระทบ เตรียมรวบรวมข้อมูลผลกระทบส่งให้ กนง.พิจารณา 12 ม.ค. ปีหน้า
- นายกรัฐมนตรี แย้มปล่อย 4 สินค้า"ปาล์ม นม ปุ๋ย เครื่องแบบนักเรียน"ขยับราคาขาย หลังจากต้นทุนเพิ่มขึ้น สำรวจตลาดสินค้าปีหน้า กลุ่มสินค้าเกษตร ผักสด อาหารสด และน้ำมันพืชปาล์ม แนวโน้มแพง หลังจากพาณิชย์แจงตัวเลขต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ฉวยจังหวะ ค่าเงิน ค่าแรง และ น้ำมัน ปรับราคา ขณะที่กลุ่มอุปโภค-บริโภค กระทบต้นทุนเล็กน้อย เฉลี่ย 0.023-1.794% "ชาวเกาะ" หันนำเข้ามะพร้าวจากอินโดนีเซีย เพื่อแก้ปัญหามะพร้าวขาดตลาด
- ผู้บริหารคลัง-แบงก์ชาตินัดถกแก้หนี้กองทุนฟื้นฟูฯ วันที่ 28 ธ.ค.นี้ ด้านคลังยืนยันที่จะใช้แนวทางออกพันธบัตรดอกเบี้ย 0% ให้แบงก์ชาติถือ ระบุ เป็นแนวทางที่แก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด เหตุผลขาดทุนสะสมของแบงก์ชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้เงินต้นได้ เผยปัจจุบันส่วนของทุน ธปท.ขาดทุนสะสมแล้ว 8 หมื่นล้านบาท ผลจากการเข้าแทรกแซงค่าเงินบาท
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขีดเส้น ให้เวลา บจ.เข้าข่ายถูกเพิกถอนแก้ไขฐานะการเงินเต็มที่ 4 ปี จากปัจจุบันไม่กำหนดระยะเวลา ชี้หากแก้ไขไม่ได้สั่งพ้นจากเป็นบริษัทจดทะเบียน เริ่มบังคับใช้ปีหน้า หวังกระตุ้นบริษัทเร่งแก้ไขปัญหา แจงจากหารือผู้บริหารบริษัทในกลุ่มเอ็นซี-เอ็นพีจี ทั้ง 32 บริษัทพบ 80-90% มั่นใจกลับมาซื้อขายในหมวดปกติได้ "ศักรินทร์"ชี้ จากภาวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีในปีหน้า หนุน บจ.เข้าข่ายถูกเพิกถอนหาผู้ร่วมทุนได้ง่ายขึ้น