สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ. แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHFG) ได้ยื่นแบบFiling เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2553 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป(IPO) จำนวน 1,443,103,288 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีบล. เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน วัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนไปใช้เสริมสร้างเงินกองทุน และรองรับการขยายธุรกิจของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด(มหาชน) ภายในปี 54
บมจ. แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป เป็นบริษัทโฮลดิ้งดูแลกลุ่มธุรกิจการเงิน โดยผู้ถือหุ้นของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯแทน และบริษัทฯเข้าถือหุ้น 99.99% ในธนาคาร และธนาคารเป็นบริษัทลูกในกลุ่ม Solo Consolidation และมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเป็นบริษัทลูกนอกกลุ่ม Solo Consolidation
ณ วันที่ 30 ก.ย.53 บริษัทฯมีทุนจดทะเบียนจำนวน 12,000 ล้านบาท และมีทุนชำระแล้ว 5,515,569,740 บาท ทั้งนี้ ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 3/53 เมื่อ 12 พ.ย.53 ได้มีมติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน 6,484,430,260 หุ้น โดยส่วนหนึ่งนำไปขาย IPO และจำนวน 4,412,455,792 หุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิม(RO)ในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 4 หุ้นใหม่ ส่วนที่เหลือใช้รองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิชุดที่ 1-2
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ณ สิ้น ก.ย.53 มีสินทรัพย์รวม 59,458.79 ล้านบาท หนี้สินรวม 53,370.95 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 6,087.84 ล้านบาท
ณ 23 ธ.ค.53 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ LHFG 3 อันดับแรก คือ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ถือหุ้น 40.95% ภายหลัง RO และ IPO จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 35.75%, บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์(QH) ถือหุ้น 25.71% ภายหลัง RO และ IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 22.45% และน.ส.เพียงใจ หาญพาณิชย์ ถือหุ้น 19.85% ภายหลัง RO และ IPO จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 17.33%
นโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ ในการพิจารณาบริษัทฯจะคำนึงถึงผลประกอบการและผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นในระยะยาว และจะพิจารณาจากงบการเงินรวม ทั้งนี้ คณะกรรมการอาจจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นครั้งคราวได้เมื่อเห็นว่าบริษัทฯมีกำไรสมควรพอที่จะทำเช่นนั้น