ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐส่งผลให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน โดยดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดลบ หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านในสหรัฐร่วงลงในเดือนต.ค.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 20.51 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 11,575.54 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 0.97 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 1,258.51 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 4.39 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 2,662.88 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่เพียง 559 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นสัดส่วนเพียงครึ่งหนึ่งของระดับปกติ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในแถบอีสต์โคสต์ของสหรัฐส่งผลให้ความต้องการพลังงานสูงขึ้น โดยหุ้นเชฟรอนทะยานขึ้น 1.2%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกหลังจากสเปนดิงพัลส์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านธุรกิจค้าปลีกในเครือมาสเตอร์การ์ด แอดไวเซอร์ส เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีนี้ พุ่งขึ้น 5.5% แตะระดับ 5.84 แสนล้านดอลลาร์ ทำสถิติปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเสื้อผ้าและอัญมณีที่มียอดขายเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง
สเปนดิงพัลส์คาดว่า พายุหิมะที่พัดกระหน่ำภูมิภาคฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้มีหิมะหนากว่า 1 ฟุตตั้งแต่มลรัฐนอร์ธ แคโรไลนา ไปจนถึงแมสซาชูเซตส์ ในระหว่างวันที่ 26-27 ธ.ค.นั้น จะไม่ส่งผลต่อการจับจ่ายของผู้บริโภค และจะไม่ทำให้ยอดขายในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีลดลงด้วย
อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด ขณะที่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงรายงานของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ที่ระบุว่า ราคาบ้านใน 20 เขตเมืองขนาดใหญ่ทั่วสหรัฐ รวมถึงนิวยอร์ก ไมอามี และบอสตัน ร่วงลง 1.3% ในเดือนต.ค. หลังจากปรับตัวลดลง 0.7% ในเดือนก.ย. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะซบเซา
ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.ร่วงลงสู่ระดับ 52.5 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงที่สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
การร่วงลงของราคาบ้านในสหรัฐส่งผลให้หุ้นกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านร่วงลง โดยหุ้นบีเซอร์ โฮมส์ ยูเอสเอ อิงค์ ปิดร่วง 4.5%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ชิคาโกเดือนธ.ค. และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ย. ส่วนวันศุกร์ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.