ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อคืนนี้ (3 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันทำการวันแรกของปี 2554 เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวติดต่อกัน 17 เดือน และตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างที่ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 93.24 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 11,670.75 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 14.25 จุด หรือ 1.13% ปิดที่ 1,271.89 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 38.65 จุด หรือ 1.46% ปิดที่ 2,691.52 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 7.7 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2,236 ต่อ 791
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดทำการวันแรกของปี 2554 ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจ หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.ขยายตัวที่ระดับ 57 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 56.6 จุด และทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว โดยอุตสาหกรรมการผลิต 11 ประเภทจากทั้งหมด 18 ประเภท มีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้า เครื่องจักร อุปกรณ์การขนส่ง อุปกรณ์ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์เคมี
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 0.4% ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดพุ่งขึ้น 6.37% ซึ่งเป็นหุ้นที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นรายใหญ่ 30 ตัวที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์ หลังจากธนาคารประกาศใช้งบประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์เพื่อซื้อคืนหนี้เสียจากแฟนนี เม และเฟรดดี้ แมค ในไตรมาส 4 โดยวงเงินกู้ที่ก่อให้เกิดหนี้เสียดังกล่าวนี้อนุมัตโดยคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในเครือแบงค์ ออฟ อเมริกา
หุ้นอัลโคปิดพุ่ง 2.66% หลังจากนักวิเคราะห์ของดอยช์ แบงค์ ประกาศเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นอัลโคเป็น "buy" จากระดับ "hold" โดยเชื่อมั่นว่าอัลโคจะได้ประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นของราคาอลูมินัม
ส่วนหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปิดบวก 2.9% หลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า โกลด์แมน แซคส์ เข้าซื้อหุ้นในเฟซบุ๊กมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนพ.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. วันพุธ ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนธ.ค. สถาบัน ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนธ.ค.
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.