นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู (BANPU) ให้สัมภาษณ์กับ "อินโฟเควสท์" เปิดเผยแผนงานสำคัญปี 54 จะเข้าซื้อเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียเพิ่มเติม ขนาดปริมาณสำรอง 20 ล้านตันขึ้นไป เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองและขยายอายุการผลิตไปเป็น 15-20 ปี จากปัจจุบันที่มีอยู่ 12.3 ปี พร้อมกับใส่เงินลงทุนเหมืองถ่านหินในเกาเหอที่จีนจากที่ล่าช้าออกไปจากปีก่อน คาดผลิตได้ในครึ่งหลังปี 54 ได้ 1.5 ล้านตัน
ดังนั้น ปี 54 คาดว่าน่าจะมีเหมืองเพิ่มขึ้น และมีปริมาณสำรองเพิ่มขึ้นที่อินโดนีเซีย จาก ณ สิ้น ก.ย.53 มีปริมาณสำรอง 277 ล้านตัน หรือในแง่การผลิตจากปีนี้จะผลิตได้ 12.3 ปี แต่บริษัทมีความต้องการเพิ่มระยะเวลาผลิตไปเป็น 15-20 ปี โดยตั้งงบลงทุนในปี 54 ที่อินโดนีเซียจำนวน 120 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนการลงทุนเหมืองถ่านหินที่เกาเหอในจีนจะลงทุนในต้นปี 54 ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนที่ได้กันงบไว้ประมาณ 22 ล้านเหรียญสหรัฐในการพัฒนาเหมือง ซึ่งล่าช้ากว่าแผนเล็กน้อยจากปีก่อนที่ต้องลงทุน โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ครึ่งหลังปี 54 และจะผลิตได้เต็มกำลังการผลิต 6 ล้านตันในปี 56
"การขยายธุรกิจยังคงเน้นที่อินโดนีเซีย เพราะปีที่แล้วเราซื้อจากอินโดฯ ไม่ได้ เราพลาดไป 2-3 ดีลซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะฉะนั้นในปี 2011 (2554 ) จะหาเข้ามาเติม ส่วนใหญ่จะไม่ใหญ่ เป็นปริมาณสำรองถ่านหินที่เพิ่มขึ้น หรือ อาจเป็นแหล่งที่มีการผลิตอยู่แล้วบ้าง ซึ่งถ้าเราเข้าไปได้คงเข้าไปปรับปรุง" นายชนินท์ กล่าว
สำหรับรายได้ปี 54 คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากปี 53 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปริมาณผลิตและขายถ่านหินจะเพิ่มขึ้นเป็น 44 ล้านตัน จากปีก่อนที่ 22.5 ล้านตัน รวมทั้งราคาขายถ่านหินปีนี้คาดว่าได้เกินกว่า 80 เหรียญสหรัฐ/ตัน สูงกว่าปี 53 ที่ขายได้เกิน 73 เหรียญสหรัฐ/ตัน แต่ในแง่ของกำไรปีนี้อาจไม่ดีมากนัก เพราะมีภาระดอกเบี้ยจ่ายและค่าเสื่อมราคา จากการเข้าซื้อกิจการเหมืองถ่านหิน Centennial Coal ในออสเตรเลีย