นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) กล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อในธุรกิจ SME เติบโตไม่น้อยกว่า 10% หรือคิดเป็นยอด outstanding เพิ่มขึ้นมาที่ 430,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 53 อยู่ที่ 395,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องจากปี 53 ที่ทำได้ทะลุเป้าหมายเติบโต 10%
ทั้งนี้ ธนาคารมีแผนจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ในการปล่อยสินเชื่อ SME เป็นไม่น้อยกว่า 30% จากเดิม 29% โดยครองความเป็นผู้นำอันดับ 1 ต่อไปในปีนี้
นายปกรณ์ กล่าวว่า แนวโน้มปี 54 เศรษฐกิจยังขยายตัว 3.5-4.5% เป็นปัจจัยบวกต่อการขับเคลื่อนการบริโภคและการลงทุนในประเทศ มองว่าในส่วนของการลงทุนภาครัฐยังมีโครงการไทยเข้มแข็ง โครงการรถไฟฟ้า และโครงการรถไฟรางคู่ เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนจะมีการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง รวมไปถึงธุรกิจเกี่ยวกับชิ้นส่วนยานยนต์ที่จะมีการย้ายฐานการผลิตมาในประเทศไทย
ส่วนการบริโภคภาคเอกชนจะมีแรงขับเคลื่อนจากโครงการประชาวิวัฒน์ของรัฐบาล การปรับขึ้นค่าแรงงาน การขึ้นเงินเดือนข้าราชการ มราตรการช่วยค่าครองชีพ รวมไปปถึงการจัดการหนี้นอกระบบ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการบริโภคและการใช้จ่ายของประชาชนมากขึ้น
นอกจากนี้ มองว่าราคาสินค้าเกษตรในปีนี้ยังคงดีขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากหลายประเทศยังเกิดภาวะภัยแล้ง ขณะที่ประเทศไทยยังมีผลผลิตทางการเกษตรทั้งข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปาล์มและยางพารา
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยท้าทายของภาคธุรกิจ SME คือแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าภายในกลางปีนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับเป็น 2.5% จาก 2% และทรงตัวไปถึงสิ้นปี ซึ่งดอกเบี้ยถือเป็นต้นทุนที่กระทบต่อภคธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของค่าเงินบาทที่แนวโน้มยังแข็งค่า โดยเฉพาะหากมีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบบายจะทำให้มีเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าสิ้นปี 54 เงินบาทจะแข็งค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 28 บาท/ดอลลาร์ ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องเตรียมรับมือด้วย
ทั้งนี้ ได้เสนอแนะผู้ประกอบการมีการบริหารต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสม มีการใช้วงเงินสินเชื่อให้ถูกประเภท เพื่อไม่ให้มีภาระดอกเบี้ยที่สูงเกินไป หรือเลือกใช้ดอกเบี้ยแบบคงที่ นอกจากนั้นจะต้องทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะผู้ส่งออกและนำเข้า หรือเร่งนำเข้าเครื่องจักรมาปรับเปลี่ยน รวมถึงการเร่งหาทางขยายตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดในเอเชีย
และในวันนี้ธนาคารได้เปิดโครงการชนะใจ SME เพื่อเจาะตลาดลูกค้าใหม่ ๆ ในกลุ่มผู้ประกอบการที่มียอดขายไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อปี และไม่เคยใช้สินเชื่อธุรกิจใด ๆ กับธนาคาร สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ ทั้งสินเชื่อเกินหลักทรัพย์ค้ำประกัน สินเชื่อระยะยาวเพื่อธุรกิจ SME และ สินเชื่อระยะยาวเสริมสภาพคล่อง โดยธนาคารจะมีการอนุมัติสินเชื่อภายใน 48 ชั่วโมง และรับเงินสินเชื่อได้ภายใน 5 วัน
โครงการนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ได้รับเงินผ่อนงวดแรกคืนสูงสุด 20% ภายใน 60 วันนับจากวันได้รับอนุมัติสินเชื่อ สำหรับวงเงินมากกว่า 8 แสนบาท ส่วนวงเงินไม่เกิน 8 แสนบาทจะได้รับเงินผ่อนงวดแรกคืน 10% โดยคืนเงินสูงสวุด 15,000 บาทต่อราย สมัครเข้าโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มี.ค.54 คาดว่าจะมีผู้ใช้บริหาร 5,500 ราย วงเงินสินเชื่อ 5 พันล้านบาท