หุ้น THANI พุ่งพรวดขึ้น 18.59% มาอยู่ที่ 1.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.29 บาท มูลค่าซื้อขาย 107.68 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.47 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.58 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.91 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.58 บาท
นายวิรัตน์ ชินประพินพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ราชธานี ลิสซิ่ง (THANI)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ราคาหุ้น THANI ปรับสูงขึ้น ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก คาดว่าคงจะเป็นผลจากที่นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุน เพราะเห็นว่า THANI มีอนาคตที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ ในปี 53 ที่ผ่านมาคาดว่าจะมีกำไรเติบโต 30-40% จากปี 52 จากยอดสินเชื่อที่มีการเติบโตสูงถึง 40-50% จากปี 52 และในปี 2554 คาดว่ายอดสินเชื่อจะเติบโต 15% จากปี 53
บริษัทปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 53 ไป 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่มี 4,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 54 สินเชื่อใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็น 7,000 ล้านบาท ส่วนยอดสินเชื่อสุทธิถึงสิ้นปี 53 อยู่ที่เกือบ 10,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 54 จะมีประมาณ 11,000-12,000 ล้านบาท
"คนที่เข้ามาลงทุนหุ้น THANI ก็คงจะมีเหตุผลของแต่ละคนกันไป แต่คิดว่านักลงทุนบางรายคงจะเห็นว่าบริษัทฯมีการเติบโตในอนาคตที่ดีขึ้น ปี 53 ยอดสินเชื่อของบริษัทฯก็โตสูง 30-40% จากปี 52 ส่วนกำไรทั้งปี 53 ก็คาดว่าจะเติบโต 30-40% จากปี 52 ได้ เพราะดูไตรมาส 3/53 ที่ผ่านมาก็โตไปตั้ง 50-60% แล้ว"นายวิรัตน์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
วานนี้(4 ม.ค.)สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เปิดเผยว่า นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู่ เข้ามาเก็บหุ้น THANI เพิ่ม 0.192% เมื่อ 29/12/2553 ทำให้ถือหุ้นเพิ่มเป็น 5.0735%
และ วันนี้จากสรุปแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของผู้บริหาร ระบุว่า นายเจริญสุข กิจอิทธิ กรรมการและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ THANI เข้าซื้อหุ้น THANI ในช่วง 28-30 ธ.ค.53 รวมทั้งสิ้น 3,030,000 หุ้นในราคา 1.46-1.55 บาท/หุ้น
ประธานกรรมการบริหาร THANI กล่าวว่า จากที่ทางธนาคารธนชาตเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ THANI หลังจากเข้าซื้อกิจการธนาคารนครหลวงไทย(SCIB)ก็ได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในการช่วยหา Funding แม้ว่าทางธนชาตจะมีธุรกิจลิสซิ่งเป็นของตัวเองเหมือนกัน แต่ธนชาตลิสซิ่งและ THANI จับลูกค้าคนละตลาดกัน โดย THANI จะจับตลาดรถมือสอง ส่วนธนชาตลิสซิ่งจะจับตลาดรถใหม่เป็นหลัก
สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ทางบริษัทฯก็คงจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อของบริษัทฯก็อยู่ในช่วงตั้งแต่ 4-16% ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละราย