ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 25.58 จุด หรือ 0.22% แตะที่ 11,697.31 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.71 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 1,273.85 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 7.69 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 2,709.89 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 8.39 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 2
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 18,000 ราย แตะระดับ 409,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 400,000 ราย
การปรับตัวเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มนายจ้างในสหรัฐยังคงเลย์ออฟพนักงาน นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังส่งผลให้นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนธ.ค.ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 9.7%
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม การที่ข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ร่วงลง 3,500 ราย มาอยู่ที่ระดับ 410,750 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง ช่วยให้ความวิตกกังวลเรื่องตลาดแรงงานผ่อนคลายลงบ้าง และยังช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะยังคงฟื้นตัว
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วประเทศสหรัฐเพิ่มการจ้างงาน 297,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 100,000 ตำแหน่ง
นอกจานกี้ แม้ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ แต่ภาวะการซื้อขายโดยรวมของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากรายงานของ International Council of Shopping Centers (ICSC) ที่ระบุว่า ยอดขายของห้างค้าปลีกในสหรัฐที่เปิดทำการนานอย่างน้อย 1 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.8% ในปี 2553 ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549