นายชัยวัฒน์ เครือชะเอม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส(UMS)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ปี 54 (ต.ค.53-ก.ย.54) ตั้งเป้ายอดขายถ่านหินเพิ่มขึ้น 20% ขึ้นไป จากการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้นของโรงงานปูนซีเมนต์เป็นปัจจัยหลัก ขณะที่ราคาถ่านหินก็ยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี ตามความต้องการที่ปรับสูงขึ้นเมื่ออุตสาหกรรมต่างๆ ฟื้นตัว โดยเพาะในประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
"ปีนี้ปริมาณความต้องการถ่านหินในตลาดน้าจะเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ อัตราการใช้วัสดุก่อสร้าง ซึ่งการใช้ปูนซิเมนต์เพิ่มขึ้นย่อมมีการใช้ถ่านหินค่อนข้างชัดเจน การขายถ่านหินของเราก็จะสอดคล้องกัน กลุ่มที่ใช้ถ่านหินรายใหญ่ก็จะมีปูนซิเมนต์ โรงไฟฟ้าและอุตฯขนาดใหญ่ ตอนนี้การเมืองไทยเริ่มนิ่งขึ้น พอการเมืองไทยเริ่มนิ่งขึ้นภาคอุตฯก็มีความมั่นใจในการที่จะลงทุนและขยายต่างๆ มากขึ้นทำให้ปริมาณการใช้พลังงานปรับตัวสูงขึ้น จึงเชื่อว่ารายได้ปี 54 น่าจะดีกว่าปี 53"นายชัยวัฒน์ กล่าว
อนึ่ง ปี 53 ปิดงวด 9 เดือน (ม.ค.-30 ก.ย.53) รายได้รวมอยู่ที่ 2,100 ล้านบาท กำไรสุทธิ 71 ล้านบาท
นายชัยวัฒน์ เชื่อว่า กำไรสุทธิในปีนี้ก็น่าจะเติบโตตามยอดขาย เพราะราคาถ่านหินดีค่อนข้างมาก เนื่องจากตอนนี้มีทั้งเรื่องสภาวะอากาศ และมีความต้องการในเรื่องของถ่านหินทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น ทำให้คาดว่าแนวโน้มราคาขายถ่านหินคงจะปรับขึ้นตามต้นทุนราคาถ่านหินในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น
สำหรับปีนี้บริษัทคงจะยังไม่มีการลงทุนใหม่ แต่เป็นการลงทุนต่อเนื่องจากโครงการต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว เพราะในเรื่องของท่าเรือและคลังสินค้าก็ได้ลงทุนไปหมดแล้ว และน่าจะเป็นปีที่ได้รับผลดีจากระบบโลจิสติกส์อย่างเต็มที่
"ปีนี้จะเป็นปีที่เรื่องของโลจิสติกเข้าที่ทั้งหมด เพราะเราจัดการเรื่องคลังสินค้าและท่าเรือเสร็จสิ้นหมดแล้วทำให้ save ต้นทุนในการจัดโลจิสติกส์ในปี 54 ได้มาก"นายชัยวัฒน์ กล่าว