นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ คือ การขยายกำลังการผลิตโพรพิลีนอีก 2.6 แสนตัน/ปีราว 800 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าโครงการแล้วเสร็จจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็๋น 7.1 แสนตัน/ปี คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 3-4 ปี
ทั้งนี้ สำหรัแผนงาน 5 ปีได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทแล้ว แต่รอการอนุมัติจาก บมจ.ปตท (PTT)ซึ่งเป็นบริษัทแม่ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ แต่เบื้องต้นมีการลงทุนเพิ่มอีก 4 โครงการ นอกเหนือจากโครงการฟีนิกซ์เดิม 19 โครงการ
นายไพรินทร์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ โดยจะเป็นการทยอยออก จากวงเงินที่ขอนุมัติจากผู้ถือหุ้นไว้แล้ว 2 หมื่นล้านบาท คาดว่าล็อตแรกจะออกจำหน่ายได้ในไตรมาสแรกของปี 54 โดยอายุหุ้นกู้ และจำนวนหุ้นกู้ที่จะออกต้องดูจังหวะตลาด และความเหมาะสม
บริษัทคาดว่าในปี 54 ยอดขายบริษัทจะเติบโตจากปีก่อนที่มียอดขายกว่า 2 แสนล้านบาท แม้ว่าบริษัทจะไม่มีกำลังการผลิตใหม่ในปี 54 และช่วงปลายปีบริษัทมีแผน major turnaround ซึ่งจะปิดซ่อมบำรุงเครื่องจักรครั้งใหญ่
แต่จากฐานราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นจะส่งผลให้ราคาปิโตรเคมีปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย รวมถึงบริษัทมีการพัฒนาเม็ดพลาสติกเกรดพิเศษเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลาสติกเกรดพิเศษ เพิ่มเป็น 40% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนประมาณ 20% ของยอดขาย และผ่านมาสินค้าเกรดพิเศษ แม้ว่าจะมียอดขายไม่มาก แต่อัตรากำไรขั้นต้นและราคาขายอยู่ในระดับสูง
"ปี 54 เราเชื่อว่าราคาเม็ดพลาสติก ยังคงอยู่ระดับที่ดี เพราะช่วงนี้ยังยืนเหนือ 1 พันเหรียญ/ตัน ส่วนเรื่องปิโตรเคมีมองว่าถ้าเป็นช่วงขาลง ปีนี้จะเป็นปีสุดท้าย แต่โดยส่วนตัวมองว่าปีนี้น่าจะเป็นปีแรกของวงจรขาขึ้นของปิโตรเคมี"นายไพรินทร์ กล่าว
ด้านนายอธิคม เติบศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจองค์กร IRPC กล่าวว่า แผนลงทุนในระยะ 5 ปีข้างหน้า(ปี 54-58) เป็นเงิน 2 พันล้านเหรียญหรือราว 6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการฟีนิกซ์ 1.3 พันล้านเหรียญ และโครงการโรงไฟฟ้า เอสพีพี ที่บริษัทยื่นขอผลิตไปก่อนหน้านี้แต่ไม่ได้รับการพิจารณา แต่ยังมีความหวัง ซึ่งได้กันงบประมาณไว้ 700 ล้านเหรียญ
เงินลงทุนดังกล่าว ส่วนหนึ่งมาจากการดำเนินงาน และอีก 3.4 หมื่นล้านบาทจะมาจากการกู้ยืมเงินสถาบันการเงิน หรืออกหุ้นกู้ โดยปีนี้ คาดว่าจะมีการกู้ยืมเงินหรืออกหุ้นกู้เพื่อใช้ในการลงทุนราว 6 พันล้านบาท และปี 55 คาดว่าจะระดมทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาทเพื่อใช้ในการลงทุน