นายทอเร่ จอห์นเซ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC)คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อขยายสถานีฐาน 1,220 สถานีในการทดลองพัฒนาการให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิร์ตซ แบบไม่ใช่บริการเชิงพาณิชย์ ตามที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT)
และคาดว่าจะใช้เวลาพอสมควรกว่าจะดำเนินการเสร็จ เพราะต้องใช้เวลานำเข้าอุปกรณ์ และการติดตั้งอุปกรณ์ ส่วนการดำเนินการในเชิงพาณิชย์จะต้องรอการตีความตามมาตรา 22 ใน พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ให้มีความชัดเจนเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม การได้ขยายการทดลอง บริษัทมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะบริษัทได้ยื่นขอขยายมาเป็นเวลานาน แต่เพิ่งได้รับอนุมัติ
นายทอเร่ กล่าวว่า บริษัทต้องการให้มีการเปิดประมูลใบอนุญาต 3G บนคลื่นความถึ่ 2.1 GHz โดยเร็ว โดยเห็นว่าทางรัฐบาลควรจะเร่งดำเนินการและวางแผนที่ชัดเจน รวมถึงกำหนดกรอบเวลาในการเปิดใบอนุญาต 3G เพื่อให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมเดินหน้าต่อไปได้
ทั้งนี้ มองภาพรวมว่า ปี 54 ยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมากนัก
นอกจากนี้ เมื่อเร็วๆนี้ DTAC ได้ทำหนังสือทวงถามไปยังผู้บริหารและคณะกรรมการ กสท. เกี่ยวกับการดูแลคู่สัญญาสัมปทานว่ามีความเท่าเทียมกันหรือไม่ ซึ่งในสัญญาสัมปทาน มีการระบุว่าต้องมีการดูแลคู่สัญญาอย่างเท่าเทียม แต่กรณีของ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของทรูมูฟเข้าซื้อกิจการของฮัทช์ บริษัทเห็นว่า กสท.ควรมีคำตอบที่ชัดเจนถึงความเกี่ยวข้องที่เกิดขึ้น รวมถึงการร่วมเป็นพันธมิตรระหว่าง กสท. กับทรู ต้องอยู่ภายใต้กม. และสัญญาสัมปทานหรือไม่
"เรื่องนี้ ทาง CAT ต้องมีความชัดเจนในการปฏิบัติว่ามีความยุติธรรมต่อ DTAC ที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานเหมือกับ TRUE " นายทอเร่ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการเช้าซื้อกิจการฮัทช์ของทรู ยังต้องใช้เวลากว่าจะแล้วเสร็จ และการดำเนินการน่าจะต้องคำนึงถึงกฏหมายด้วย ซึ่งกว่าจะแล้วเสร็จก็คงต้องใช้เวลา