นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท (PTT) คาดว่าจะสามารถควบรวมกิจการบริษัทในเครือจะสามารถสรุปผลศึกษาภายในไตรมาส 1/54 โดยกลุ่มแรกจะเป็นกิจการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ระยองทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ บมจ.ปตท.เคมิคอล (PTTCH) , บมจ. ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น (PATTAR) และ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC)
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะเลือก 2 ใน 3 กิจการดังกล่าวมาควบรวมกิจาการก่อน โดยคาดว่ากระบวนการควบรวมและจัดตั้งบริษัทใหม่ จะแล้วเสร็จต้นไตรมาส 3/54
"คาดว่าข้อสรุปว่าจะควบรวมบริษัทใดก่อนจะเสร็จภายในไตรมาส 1/54 เพราะเรามีการศึกษาอย่างจริงจัง มีการจัดตั้งที่ปรึกษาแล้ว คงจะควบรวมบริษัทในพื้นที่จังหวัดระยองก่อน คาดว่าจะใช้เวลา 7-8 เดือนนับตั้งแต่มกราคม เราน่าจะควบรวมแล้วเสร็จและจัดตั้งบริษัทใหม่ได้ "นายประเสริฐ กล่าว
ทั้งนี้ ปตท. เชื่อว่าการควบรวมกิจการจะทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งในการดำเนินงาน ซึ่งไม่ได้เป็นการผูกขาดตลาดในธุรกิจ down stream แต่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจมากกว่า
สำหรับกระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า ปตท.เจรจาซื้อหุ้น IRPC ในส่วนที่ธนาคารออมสิน และกองทุนบำเหน็ญบำนาญข้าราชการ(กบข.)ถืออยู่นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า บริษัทไม่มีแนวคิดที่จะซื้อหุ้น IRPC ต่อจากผู้ถือหุ้นทั้งสองราย เนื่องจากปัจจุบัน ปตท. ถือหุ้น IRPC เกือบ 40% และหากรวมการถือหุ้นของธนาคารออมสินกว่า 10% จะส่งผลให้ IRPC กลายเป็น รัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะต้องมีการชี้แจง ต่อตลาดหลักทรัพย์ และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
อย่างไรก็ดี หากบริษัทเห็นว่า ราคาหุ้น IRPC มีความน่าสนใจและจะลงทุนเพิ่ม บริษัทก็จะลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์
ด้านนายณัฐชาติ จารุจินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์องค์กร PTT เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจค้าปลีก นอกเหนือจากการลงทุนในธุรกิจหลักที่เกี่ยวเนื่องน้ำมันและก๊าซ เพราะมองว่าจะช่วยต่อยอดให้กับบริษัทได้และมีโอกาสเติบโต ซึ่ง ปตท.เองก็มีแผนจะขยายร้านค้าปลีก"Jiffy"ออกไปนอกสถานีบริการน้ำมันของ ปตท.เริ่มต้นที่อาคารเอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์(Enco) 2 แห่ง บริษัทพยายามศึกษาการลงทุนต่อเนื่อง รวมถึง การซื้อธุรกิจค้าปลีก เพื่อมาต่อยอด ซึ่งบริษัทยังไม่ได้ปิดโอกาส หากได้รับข้อเสนอที่น่าสใจ
ส่วนธุรกิจหลักด้านน้ำมันและก๊าซ ยังมีการเจรจาต่อเนื่อง โดยสนใจด้านโรงไฟฟ้าและถ่านหิน ซึ่งศึกษาอยู่หลายดีลในภูมิภาคเอเชีย แต่ไม่สามารถเปิดเผยว่าได้ว่าเจรจาอยู่กี่ดีลและเป็นธุริจใดบ้าง เนื่องจากในสัญญามีข่อกำหนดในการเปิดเผยข้อมูลด้วย