โบรกเกอร์ต่างแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท(PS)คาดการณ์กำไรสุทธิในปี 54 เติบโต 21-29% เป็น 4.0-4.5 พันล้านบาท จากปี 53 ที่มีกำไรสุทธิประมาณ 3.3-3.6 พันล้านบาท ซึ่งแทบไม่เติบโตเมื่อเทียบกับปี 52 เพราะแม้ว่าจะมียอดขายบ้านสูงถึง 6.2 หมื่นล้านบาท แต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงมาก
ขณะที่ราคาหุ้นยัง undervalue เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและราคาเป้าหมาย แต่มองว่าควรถือลงทุนยาว แต่บางโบรกเกอร์แนะให้เก็งกำไรระยะสั้น เพราะคาดผลประกอบการปี 53 จะออกมาไม่ค่อยดี แต่เชื่อว่าราคาหุ้นช่วงนี้คงไม่หวือหวาตามยอดขายบ้านที่อ่อนตัวลงในครึ่งปีแรก
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.เคจีไอ ซื้อ 31.00 บล.ฟาร์อีสท์ ลงทุนระยะยาว 29.80 บล.โกลเบล็ก ซื้อ 28.00 บล.ซิกโก้ ซื้อ 26.00 บล.กิมเอ็ง ซื้อ 25.80 บล.ยูไนเต็ด ซื้อ 25.00 บล.กรุงศรีอยุธยา เก็งกำไร 24.00 บล.เอเซียพลัส ถือ 23.46 บล.ดีบีเอส ซื้อ 23.00 บล.เกียรตินาคิน เก็งกำไร 21.50
น.ส.เติมพร ตันติวิวัฒน์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่าเหตุผลที่แนะนำซื้อหุ้น PS เพราะเป็นหุ้น Growth stock ในปี 54 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโต 21% เป็น 4.3 พันล้านบาท จากปี 53 ที่ประเมินว่าจะมีกำไรสุทธิ 3.6 พันล้านบาท แทบจะไม่เติบโตเมื่อเทียบกับปี 52
ในปี 54 คาดว่า PS จะมีรายได้ 2.8 หมื่นล้านบาท โดยได้รับมาเป็นยอดโอนในปีนี้ 1.8 จาก backlog ที่มีอยู่ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งมาจากปีที่แล้วที่มียอดขาย 6.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 70% และปีนี้คาดว่าจะมียอดขาย 5.4 หมื่นล้านบาท แต่คาดว่าหากมีความต้องการเพิ่มจะมีปรับยอดขายเพิ่มขึ้นเหมือนปีก่อน แต่ปีที่แล้วบริษัทมีค่าใช้จ่ายและดอกเบี้ยมาก ทำให้ทำกำไรได้ไม่ค่อยดี
"PS เป็น Growth stock เหตุผลหลัก growth อย่างเดียว ประเด็นอื่นคงจะค่อนข้างอ่อน เรื่องปันผลไม่โดดเด่น"น.ส.เติมพร กล่าว
น.ส.เติมพร มองว่า ราคาหุ้น PS ในช่วงนี้คงไม่หวือหวาไปสักระยะ โดยตั้งราคาเป้าหมายปี 54 ที่ 25.80 บาท อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 1 จะมียอดพรีเซล อ่อนตัวตามฤดูกาล และไตรมาส 2 ยอดพรีเซลจะอ่อนตัวต่อเนื่องเพราะมีวันหยุดค่อนข้างมาก ดังนั้นให้มองเป็นการลงทุนระยะยาวจะดีกว่า
ส่วนนักวิเคราะห์ จากบล.เคจีไอ กล่าวว่า ยอดขายของ PS เติบโตเป็นอันดับหนึ่ง รวมทั้งรายได้ก็อยู่อันดับหนึ่งเช่นกัน โดยปี 54 เติบโตทั้งยอดขายที่คาดว่าอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท จากที่ผู้บริหารคาดไว้ 4.2 หมื่นล้านบาท และรายได้คาดว่าจะได้ 2.8 หมื่นล้านบาท จากที่บริษัทคาดไว้ 3.2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยอดขายและรายได้จะเป็นตามคาดการณ์หรือไม่ขึ้นกับการก่อสร้าง ซึ่งบริษัทจะดำเนินงานโรงงาน Precast ได้ตามกำหนดหรือไม่ เพราะในปีที่ผ่านมาบริษัทไม่สามารถสร้างบ้านส่งมอบได้ทัน
ส่วนกำไรสุทธิในปี 54 คาดไว้ที่ 4.5 พันล้านบาท เติบโต 29% จากปี 53 ที่คาดไว้ 3.5 พันล้านบาท
"ราคาหุ้น PS ตอนนี้ถูกมาก ถ้าดู Valuation ถูกมาก และ P/E ต่ำกว่า 5 ปีเฉลี่ย ขณะที่ Business Model 5 ปี ได้เปลี่ยนไปแล้วตอนนี้เป็นเบอร์หนึ่งไปแล้ว จากที่ทำตลาด Low-end ทาวน์เฮ้าส์อย่างเดียว แต่ตอนนี้ราคาหุ้น undervalue เพราะทั้ง sector โดนกระทบทั้งหมด แต่เรามองตัวนี้ Fundemental ดีสุด"นักวิเคราะห์กล่าว
บล.เกียรตินาคิน คาดผลประกอบการในไตรมาส 4/53 เติบโตรองจากไตรมาส 1/53 ทั้งนี้ แรงกดดันจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริษัททำให้กดดันผลประกอบการ โดยได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิของปี 53 ลง 3% และปี 54 ลง 14% โดยบริษัทยังคงมีรายได้ที่เติบโตจาก งานในมือ(Backlog )รอรับรู้รายได้กว่า 18,000 ล้านบาท และแนวโน้มยอดขายแนวราบที่เติบโตสอดคล้องกับการเปิดตัวโครงการใหม่
โดยคาดในปี 53 มีกำไรสุทธิ 3,327 ล้านบาท และในปี 54 มีกำไรสุทธิ 3,977 ล้านบาท คาดว่าบริษัทจ่ายปันผลในปี 53 ที่ 0.55 บาท ให้ผลตอบแทน Div.Yield’53 ที่ 3% (บริษัทประกาศจ่ายปันผลปีละ 1 ครั้ง) นอกจากนั้น ในระยะยาวบริษัทจะเริ่มเห็นการรับรู้รายได้ จากโครงการต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเริ่มเข้ามาในปี 54 ที่ประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท