โบรกฯเชียร์"ซื้อ"PTTEP ราคาหุ้นถูก,ลุ้น"มอนทาร่า"ชัดเจนก.พ.,กำไรปี54โต

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 12, 2011 14:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)มองราคาหุ้นในปัจจุบันรับรู้เรื่องโครงการมอนทาร่าไปมากแล้ว ทำให้เทรดด้วย P/E แค่ 10 เท่า จากอดีตที่เทรด P/E 15 เท่า และหากไม่มีโครงการมอนทาร่าก็คงจะส่งผลกระทบต่อ Fair Value ประมาณ 18-30 บาท/หุ้น ขณะที่ราคาหุ้น PTTEP ยังต่ำและมี upside เหลือสูงมาก

อย่างไรก็ดี คาดว่าในเดือนกุมภาพันธ์เรื่องนี้จะมีความชัดเจนการตรวจสอบผลกระทบจากความเสียหายแหล่งมอนทาร่าโดยทางออสเตรเลียและอินโดนีเซีย หากเกิดความชัดเจนว่าจะต้องจ่ายชดเชยเท่าไร ราคาหุ้นก็จะสะท้อนถึง Fundamental แต่ทั้งนี้ก็คิดว่าไม่น่าจะเลวร้ายถึงขั้นถูกยกเลิกใบอนุญาตการเป็นผู้ดำเนินการ

นอกจากนี้ ยังคาดว่าผลกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/53 เติบโตในช่วง 101-112.74% yoy จากราคาขายปิโตรเคมีที่ปรับตัวสูงขึ้น และปีนี้ก็คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตดีต่อเนื่อง โดยคาดกำไรสุทธิปี 54 อยู่ในช่วง 40,000-51,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 53 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ในช่วง 34,000-40,970 ล้านบาท

ปีนี้ PTTEP กำไรจะเติบโตดีจากกำลังการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น อาทิจากโครงการเวียดนาม 16-1, รับรู้โครงการ MTJDA เต็มทั้งปี และราคาขายที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่มีทิศทางสูงขึ้น รวมทั้งยังได้เงินชดเชยจากโครงการมอนทาร่าอีก 140 ล้านเหรียญฯ

          โบรกเกอร์              คำแนะนำ      ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)      ซื้อ             226.00
          บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)     ซื้อลงทุน         225.00
          บล.เอเชีย พลัส            ซื้อสะสมลงทุน     236.08
          บล.กสิกรไทย              Outperform     269.00
          บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)     Outperform     220.00
          บล.ทิสโก้                 ซื้อ             235.00
          บล.ยูไนเต็ด               ซื้อ             210.00
          บล.บีฟิท                  ซื้อ             203.00
          บล.ฟินันเซีย ไซรัส          ซื้อ             195.00

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)แนะนำ"ซื้อ"หุ้น PTTEP เนื่องจากมองว่าราคาหุ้นปัจจุบันได้รับรู้เรื่องโครงการมอนทาร่าไปมากแล้ว ทำให้เทรดด้วย P/E แค่ 10 เท่า จากอดีตที่เทรด P/E 15 เท่า และหากไม่มีโครงการมอนทาร่า ราคาพื้นฐานหักไปประมาณ 23 บาท/หุ้น ก็คงเหลือราคาเป้าหมายที่ 202 บาท/หุ้น ซึ่งเมื่อมองราคาหุ้น PTTEP ในปัจจุบันก็เห็นว่ามี upside เหลือให้เล่นได้อยู่มาก

นอกจากนี้ ยังคาดว่าผลกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/53 เติบโต 101% yoy จากราคาขายปิโตรฯที่ปรับตัวสูงขึ้น และปีนี้ก็คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตดีต่อเนื่อง โดยคาดกำไรสุทธิปี 54 ที่ 51,000 ล้านบาท เติบโต 25% จากปี 53 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 40,970 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปีนี้ PTTEP กำไรเติบโตดีจากกำลังการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น อาทิ จากโครงการเวียดนาม 16-1 และราคาขายที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่มีทิศทางสูงขึ้น รวมทั้งยังได้เงินชดเชยจากบริษัทประกันในโครงการมอนทาร่าอีก 140 ล้านเหรียญฯ

น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ปีนี้คาดว่ากำไรสุทธิของ PTTEP จะออกมาดีมาก โดยคาดไว้ที่ 40,000 ล้านบาท เติบโต 17% จากปี 53 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 34,000 ล้านบาท เป็นผลจากปีนี้มองว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ราคาหุ้น PTTEP ปัจจุบันนี้ยังถูกมาก ซึ่งนักลงทุนสามารถจะซื้อลงทุนระยะยาวได้ เพราะแม้ว่าจะไม่มีโครงการมอนทาร่า ราคาพื้นฐานของ PTTEP ก็ยังอยู่ที่ 165 บาท/หุ้น ซึ่งราคาปัจจุบันก็ยังต่ำกว่าอยู่ดี

"ตอนนี้ก็มีเรื่องโครงการมอนทาร่าที่กดดันอยู่ แต่คิดว่าในเดือนกุมภาพันธ์เรื่องนี้จะชัดเจนได้จากทางออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย และถ้าเกิดความชัดเจนขึ้นว่าจะต้องจ่ายเท่าไร ราคาหุ้นก็จะสะท้อนถึง Fundamental"น.ส.จิตรา กล่าว

นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า ตามปัจจัยพื้นฐานก็ยังแนะนำ"ซื้อ"หุ้น PTTEP ซึ่งการที่ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นก็เป็นตัวช่วยสนับสนุนให้หุ้นปรับตัวขึ้นได้ อีกทั้งปีนี้ PTTEP ก็ยังมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นด้วย

อย่างไรก็ดี PTTEP ยังมีเรื่องกวนใจจากโครงการมอนทาร่าที่จะต้องรอดูผลว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งแน่นอนเมื่อผลออกมาแล้วก็ต้องดูว่าได้รับผลกระทบมากหรือเปล่า หากได้รับผลกระทบมากก็จะต้องทำการปรับประมาณการ และคงจะมีผลต่อราคาหุ้น PTTEP ด้วย

ส่วนบล.เอเชียพลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ทยอยซื้อสะสมลงทุน"หุ้น PTTEP ภายใต้ประมาณการใหม่มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2554 (DCF) เท่ากับ 236.08 บาทต่อหุ้น เพราะเชื่อว่าราคาหุ้น PTTEP ในช่วงที่ผ่านมาได้ปรับตัวลดลงสะท้อนปัจจัยลบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไปมากแล้ว และยังคงเชื่อว่าแนวโน้มข้อสรุปจากโครงการมอนทาราที่จะเกิดขึ้นภายใน 2-3 เดือนนี้ ไม่น่าจะเลวร้ายถึงขั้นถูกยกเลิกใบอนุญาตการเป็นผู้ดำเนินการ

ในเบื้องต้นยังคงเชื่อว่าข้อสรุปที่ออกมาจะอยู่ในรูปแบบของค่าปรับและติดตามการดำเนินงานมากกว่า แต่หากเกิดกรณีเลวร้ายถึงขั้น PTTEP ถูกยกเลิกใบอนุญาต จะส่งผลให้ PTTEP ต้องบันทึกการตัดจำหน่าย(Write-off)ราว 1 พันล้านเหรียญฯ และกระทบต่อ Fair Value ราว 18 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มประมาณการกำไรสุทธิในปี 54 ใหม่ที่ 44,725 ล้านบาท พบว่าจะยังเติบโตอีก 8%yoy ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของทั้งปริมาณการผลิตและจำหน่ายจากการรับรู้โครงการ MTJDA เต็มทั้งปี และเริ่มผลิตของโครงการเวียดนาม 16-1 รวมถึงราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบที่กำหนดให้ในปี 54 เท่ากับ 85 เหรียญฯต่อบาร์เรล ทั้งนี้ยังมีรายได้พิเศษที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากประมาณการปัจจุบันได้ในส่วนของเงินเคลมประกันโครงการมอนทาราดังกล่าวข้างต้นซึ่งยังไม่รวมไว้ในประมาณการ

บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น PTTEP โดยคาดว่า 4Q53 มีกำไรสุทธิ 9,896.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112.74%YoY ลดลง 6.03%QoQ สำหรับปี 54 คาดการณ์กำไรสุทธิ 47,058 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปริมาณการจำหน่าย มาจากการผลิตในโครงการใหม่คือเวียดนาม 16-1 และการผลิตเต็มกำลังการผลิต ในโครงการ MTJDA และราคาขาย ที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียจะสรุปเรื่อง Independent Review ที่ PTTEP ทำเสนอไปสำหรับโครงการมอนทาราในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งก็จะทราบว่า PTTEP จะทำอย่างไรต่อไป ทางบริษัทยังมีมุมมองที่ดีและประเมินว่าจะไม่มีการยกเลิกโครงการแน่นอน ส่วนกับรัฐบาลอินโดนีเซียจะนำผลกระทบสิ่งแวดล้อม จากความเสียหายโครงการมอนทารามาสรุปกับ PTTEP ในเดือนกุมภาพันธ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ