บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) ตั้งเป้ารายได้ปี 54 ทำได้ 2.9 หมื่นล้านบาท หรือติบโต 60% เติบโตจากปี 53 ที่คาดว่าจะมีรายได้ราว 1.8 หมื่นล้านบาท และมีเป้าหมายในแผน 3 ปีจะสร้างรายได้ทะลุ 5 หมื่นล้านบาทในปี 56 โดยการเติบโตจะมาจากธุรกิจหฃลักในด้านเทคโนโลยี และธุรกิจใหม่ที่มีประสิทธิภาพ
"บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษากลยุทธการควบรวมกิจการ เพื่อการเติบโตอย่างรวดเร็ว และการถ่ายทอดความรู้ โดยการจ้างทีมงานที่เป็นมืออาชีพ"นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SAMART กล่าว
สำหรับเป้าหมายในปี 56 ที่ 5 หมื่นล้านบาท จะมาจากธุรกิจไอซีที 1.5 หมื่นล้านบาท ธุรกิจโมบายล์ 2 หมื่นล้านบาท ธุรกิจยูทิลิตี้เซอร์วิส 1.2 หมื่นล้านบาท และธุรกิจอื่น ๆ 3 พันล้านบาท
นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า ในปีนี้สายธุรกิจโมบายล์มัลติมิเดีย โดยบมจ.สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) ตั้งเป้ารายได้ที่ 1 หมื่นล้านบาท เติบโต 20% และมียอดขายจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ 3.5 ล้านเครื่อง เน้นการพัฒนาแอพพลิเคชั่น คอนเท้นท์ และ เป็นผู้นำในการให้บริการ 3G คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการ MVNO 3G X เพิ่มเป็น 5-6 แสนรายในปีนี้ จากปัจจุบัน 1.5 แสนราย
ส่วนงานสายไอที โซลูชั่น โดยบมจ. สามารถเทลคอม(SAMTEL) ตั้งเป้ารายได้ปี 54 ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท จะสร้างรายได้เติบโตเกือบ 200% สูงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากมีมูลค่างานคงค้างในมือกว่า 4 พันล้านบาท และมีงานใหญ่ที่กำลังรอประมูลและสนใจเป็นผู้ประมูล ประกอบด้วย โครงการวางระบบเครือข่าย 3G ของบมจ.โอที มูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท และงาน Net Generation Networks (NGN)ของทีโอที มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท และงานพัฒนาระบบสารสนเทศของกรมที่ดิน มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท
นอกจากนั้น ยังมีงานโครงการอีกกว่า 5 พันล้านบาทในส่วนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวง รวมทั้งโครงการอื่น ๆ ในสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่าราว 3 พันล้านบาท บริษัทจึงมั่นใจว่าในปี 54 SAMTEL จะประสบความสำเร็จอย่างสูงในเชิงรายได้และกำไร
นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า สายธุรกิจเกี่ยวเนื่องจะมีรายได้ราว 2 พันล้านบาท จากบริษัท วันทูวัน คอนแท็คส์, บริษัท สามารถวิศวกรรม และ บริษัท วิชั่น แอนด์ ซีเคียวริตี้ ซิสเต็ม ขณะที่สายงานธุรกิจ ยูทิลิตี้ เซอร์วิส ตั้งเป้ารายได้ปี 54 ไว้ที่ 1 พันล้านบาท ซึ่งจะมีรายได้หลักจาก บริษัท แคมโบเดีย ทราฟฟิก, บริษัท กัมปอต พาวเวอร์ แพลนท์ และ บริษัท สุวรรณภูมิ เอนไวรอนเม้นท์
อีกทั้ง บริษัทยังมีการลงทุนใหม่ราว 1 พันล้านบาทในปีนี้ ซึ่งจะสร้างรายได้ประจำเข้ามาใน 2-3 ปีข้างหน้า
"แม้ปีที่ผ่านมา ภาวะโดยรวมของประเทศจะได้รับผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมือง แต่กลุ่มสามารถยังมีรายได้รวมประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นระดับที่ดี และมีผลกำไรที่น่าพึ่งพอใจ และในปีนี้ก็จะพยายามพัฒนาเพื่อคงการเติบโตของรายได้และกำไรของบริษัทในทุกกลุ่มไว้"นายวัฒน์ชัย กล่าว