นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ธนาคารได้รับความไว้วางใจจาก บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) ให้ทำหน้าที่ผู้จัดการระดมเงินกู้ (Lead Arranger) ในจำนวนรวม 38,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการเข้าซื้อกิจการที่จะส่งเสริมให้บิ๊กซีเป็นผู้นำในตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทย นอกเหนือจากการจัดเงินกู้แบบสกุลบาทเพื่อปิดความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
ธนาคารนำเสนอโครงสร้าง Bridge loan ที่จะเอื้อให้ทาง BIGC มีความยืดหยุ่นในเทอมการชำระ และลดความเสี่ยงในการจัดหาเงินกู้ระยะยาว(Take Out Long Term Loan)ซึ่งจะสอดคล้องกับโครงสร้างกระแสเงินสดที่จะชัดเจนขึ้นภายหลังการซื้อกิจการ โดยรายละเอียดการเบิกถอนเป็นสิ่งที่ทีมงานให้ความสำคัญกับรายละเอียดทุกขั้นตอน จนทำให้ทาง BIGC สามารถเบิกถอนเงินกู้ทั้งจำนวนในเวลาที่กำหนดไว้
ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นได้เพราะทีมงานธนาคารเข้าใจในธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตและเข้าใจในโครงสร้างธุรกิจของบิ๊กซี และที่สำคัญคือความเข้าใจในความต้องการและความซับซ้อนของการจัดเงินกู้เพื่อการควบรวมหรือการซื้อกิจการ ผนวกกับความเชี่ยวชาญใน และความมุ่งมั่นของทีมงาน ทำให้การจัดวงเงินกู้ทั้งหมด สามารถสรุปเอกสารสัญญาเงินกู้และจัดให้มีการลงนามได้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ซึ่งนับว่าเป็นการทำงานที่รวดเร็วมากเป็นประวัติการณ์ สำหรับเงินกู้จำนวนมากขนาดนี้" นายบุญทักษ์ กล่าว
สำหรับความร่วมมือกับ KTB ครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของธนาคารพาณิชย์ไทย ที่ได้สนับสนุนวงเงินสินเชื่อขนาดใหญ่เพื่อช่วยเสริมศักยภาพทางธุรกิจให้แก่ลูกค้า ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความเข้าใจในธุรกิจ และความตั้งใจของทีมงาน
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย(KTB) กล่าวว่า เงินกู้ Bridge Loan เพื่อรองรับการซื้อกิจการคาร์ฟูร์ในครั้งนี้ นับว่าเป็นความสำเร็จของธนาคารพาณิชย์ไทยที่ได้รับความไว้วางใจในการจัดหาเงินกู้จำนวนหลายหมื่นล้านบาท ท่ามกลางข้อเสนอเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ และเป็นการสะท้อนถึงมาตรฐานและคุณภาพการทำงานของทีมงานที่ทัดเทียมกับสถาบันการเงินต่างประเทศ
การผนึกกำลังกันของ KTB และ TMB ทำให้ได้วงเงินกู้สกุลบาทจำนวนมาก และปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากรายรับของ BIGC เป็นสกุลบาททั้งหมด
ทั้งนี้ BIGC เป็นผู้ชนะการประมูลซื้อกิจการคาร์ฟู ในช่วงกลาง พ.ย.53 และมีกำหนดการต้องชำระเงินในระยะเวลาสั้นมากคือ ต้นเดือน ม.ค.54 ดังนั้นจึงต้องไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นในการจัดหาเงินกู้ งานด้านเอกสารเงินกู้และเบิกถอนเงินกู้ทั้งจำนวน ซึ่งทีมงานของ BIGC เป็นทีมงานที่มีความชำนาญในระดับโลก ในการทำงานด้านการซื้อกิจการและการระดมเงินทุน การทำงานร่วมกันเป็นประสบการณ์ที่ดีของทั้ง BIGC และธนาคาร โดยเฉพาะตลาดค้าปลีกที่จะมีการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้น และธนาคารพาณิชย์ไทยที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นในบริษัทต่างชาติ ธนาคารมีความภูมิใจมากในการเป็นส่วนหนึ่งในแรงผลักดันของก้าวที่สำคัญในหลายๆ ด้านของประเทศในครั้งนี้