นางอรดี ณ ระนอง ประธานอำนวยการ บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 54 ที่ 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 50% จากปี 53 ที่มีรายได้รวมประมาณ 2.26 พันล้านบาทเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสัดส่วนรายได้ในปีนี้มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 64% และประมาณ 34% มาจากธุรกิจสังกะสีอ๊อกไซด์ จากปีก่อนที่มีสดัส่วนธูรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ 51% และธุรกิจสังกะสีอ๊อกไซด์ ที่ 44%
"ปีนี้เราคาดว่ารายได้รวมจะเติบโต 56% จาก 2,260 ล้านบาท เป็น 3,500 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่รายได้โตก้าวกระโดด หรือ กว่า 70%...สัดส่วนรายได้ธูรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มมากขึ้นในปีนี้"นางอรฤดี กล่าว
นางอรฤดี กล่าวว่า ในปี 54 บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินประมาณ 1 พันล้านบาทซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อน สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม และได้ตั้งงบลงทุนไม่เกิน 1 พันล้านบาท เพื่อหาช่องทางการลงทุนในอาคารสำนักงานเก่า โดยขณะนี้ยังไม่มีเป้าหมายว่าจะเข้าซื้ออาคารในทำเลใด
ด้านนายธนพล ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการ UV กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 54 ไม่ต่ำกว่า 2.1 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดรับรู้รายได้ 1.139 พันล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทมีมูลค่างานในมือ(backlog) จำนวน 3.8 พันล้านบาท และมีแผนเปิดโครงการใหม่เป็นคอนโดมิเนียมระดับกลางภายใต้แบรนด์ ยูดีไลท์ มูลค่ารวม 3.3 พันล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะเปิดตัวโครงการแรกในไตรมาส 1/54 และอีก 2 โครงการในไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้
โดยคาดว่าปี 54 จะมีอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น)ประมาณ 25-30%
"แม้จะมีคนมองว่าตลาดคอนโดฯล้นตลาด แต่เมื่อปลายปีที่แล้วเราก็ยังเห็น้มีการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง และทำตลาด 1-3 ล้านบาทซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่บริษีททำอยู่ ซึ่งเห็นว่าเป็น Real Demand"นายธนพลกล่าว
สำหรับโครงการปาร์ค เวนเชอร์ ดิ อีโคเพล็กซ์ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานเกรดพรีเมียม และโรงแรมระดับ 5 ดาว ย่านเพลินจิต-วิทยุ ขนาดพื้นที่ 2.8 หมื่น ตร.ม.ดำเนินการก่อสร้างไปมากกว่า 60% แล้ว และเตรียมเปิดบริการพื้นที่ส่วนสำนักงานใหญ่อย่างเป็นทางการในเดือน ก.ย.54 และมั่นใจว่าเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะสามารถสร้างรายได้ระยะยาวให้บริษัทไม่ต่ำกว่าปีละ 300 ล้านบาท
นายธนพล กล่าวว่า แนวโน้มบริษัทจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมไม่ต่ำกว่า 3 โตรงการ ซึ่งคาดว่าปีหน้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มเป็น 70% และภายใน 3 ปีข้างหน้ารายได้รวมจะเติบโตเป็น 5 พันล้านบาท โดยปีหน้าจะมีรายได้จากโครงการปาร์ค เวนเชอร์ ดิ อีโคเพล็กซ์ เข้ามาเต็มปี
นางอรฤดี กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจสังกะสีอ๊อกไซด์เติบโตตามธุรกิจยานยนต์ที่เติบโต 10%และยางรถยนต์ที่เติบโต 15-20% ในปี 54 คาดว่าจะมีปริมาณขาย 1.6-1.7 หมื่นตัน จากปี 53 ที่ขายได้ 14,456 ตัน ยอดขาย 1,078 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 2,111 เหรียญ/ตัน
ภายในสิ้นปีนี้บริษัทจะย้ายไปโรงงานใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะจากบริเวณรังสิต โดยใช้เงินลงทุน 270 ล้านบาทเมื่อปลายปีที่แล้ว ขณะนี้งานก่อสร้างคืบหน้าไป 55% ส่วนที่ดินในโรงงานเดิมที่รังสิตมีจำนวน 12 ไร่ คาดว่าอาจจะมีแผนก่อสร้างเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในภายหลังได้