(เพิ่มเติม) OFM ตั้งเป้ายอดขายปี 54 โต 20-25% คาดกำไรโตกว่า 50% ใกล้เคียงปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 18, 2011 14:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ออฟฟิศเมท (OFM) ตั้งเป้ายอดขายปี 54 เพิ่มขึ้น 20-25% จากปีก่อน ขณะที่คาดว่ากำไรจะเติบโตใกล้เคียงกับปี 53 ที่เติบโตกว่า 50%

สำหรับการดำเนินงานของปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำยอดขายและกำไรได้ตามเป้าหมาย โดยยอดขายเติบโตมากกว่า 20% จาก 970 ล้านบาทในปี 52 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น(Gross margin) อยู่ที่ 22-23% และ อัตรากำไรสุทธิ(Net margin)อยู่ที่ 4% ทำให้กำไรเติบโตมากกว่า 50% จาก 17 ล้านบาทในปี 52

"ถือว่าเป็นการทำกำไรที่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากปี 52 ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ภาวะเศรษฐกิจและเศรษฐกิจโลก ส่วนปี 54 ตั้งเป้ามีกำไรเติบโตใกล้เคียงปี 53 และคาดว่ายอดขายจะโต 20-25%" นายวรวุฒิ อุ่นใจ กรรมการผู้จัดการ OFM กล่าว

นายวรวุฒิ กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานในปี 53 ที่ทำได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ทำให้บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการครึ่งหลังปี 53 ในอัตราไม่ต่ำกว่าที่จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครึ่งปีแรกในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น ซึ่งบริษัทจะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในเดือน มี.ค.54 และคาดว่าจ่ายเงินปันผลได้ในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.54

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 54 บริษัทมุ่งทำการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมาย โดยยังเน้นการขายผ่านแคตตาล็อกมากขึ้น เพื่อให้มีโอกาสขายสินค้าได้มากขึ้น ขณะเดียวกันจะมีการทำ call center โดยเพิ่มจำนวนพนักงานจากปัจจุบันที่มี 200 คน เป็น 300-400 คน ภายใน 2-3 ปี เพื่อเป็น telemargeting เชิงรุกต่อไป

นอกจากนั้น ในปีนี้บริษัทจะมีการจัดตั้งแผนกจัดซื้อสินค้าต่างประเทศเพื่อนำมาจำหน่าย โดยมุ่งสินค้าจากฮ่องกง และแอฟริกา ซึ่งเป็นสินค้าประเภทเครื่องประดับ สินค้าตกแต่งบ้าน และสินค้าเน้นดีไซน์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมาร์จิ้นได้มากขึ้น

นอกจากนี้ จะมีการรุกตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยจะนำระบบ e-procurement ในการจัดซื้อสินค้าเฉพาะแต่ละองค์กร ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุนการจัดซื้อได้ถึง 20-25% รวมทั้ง จะมีการจัดสัมมนาเพื่อเพื่อให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่และผู้บริหารงานจัดซื้อระดับองค์กรทุกไตรมาส ของปีนี้ และการรุกตลาด trendyday.com เพื่อเข้าสู่ตลาดเครื่องเขียนที่ใช้ในบ้านมากขึ้น

สำหรับการขยายตลาดขายสินค้าไปยังตลาดอินโดจีน คือ ลาว กัมพูชา และเวียดนาม โดยมีการซื้อขายสินค้าที่มีภาษี 0% ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัท ไปรษณีย์ไทย และการประสานงานจากหลายกระทรวง ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้ไทยเป็น Hub ของการขนส่งสินค้าสู่ตลาดอินโดจีน 4 ประเทศ โดยจะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งที่ถูกลง คาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในปลายปี 54

นายวรวุฒิ กล่าวอีกว่า จากการที่ชมรม CEO mai ได้หารือกับ รมว.คลังเกี่ยวกับข้อเสนอการขอลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทใหม่ที่จดทะเบียนเข้าตลาด mai จาก 30% เหลือ 20% เป็น เวลา 8 ปี คาดว่าจะมีข้อสรุปในเดือน ก.พ.54 หากบรรลุตามข้อเรียกร้องก็จะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์

ทั้งนี้ได้มีการชี้แจงให้รัฐบาลได้เห็นประโยชน์จากการสร้างแรงจูงใจเพื่อธุรกิจ SMEs เข้าจดทะเบียนในตลาด mai ที่พบว่าทุกบริษัทมีอัตราการจ่ายภาษีที่สูงขึ้นหลังเป็น บจ. เป็นการเข้าระบบภาษี และการจัดทำบัญชีอย่างถูกต้องโปร่งใส แม้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีบางส่วนแล้วก็ตาม

ดังนั้น เห็นว่ารัฐบาลควรผลักดันสิทธิประโยชน์จูงใจต่อไปในระยะยาว เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้ตัดสินใจเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น และเชื่อว่าจะทำให้มี SMEs เข้าตลาด mai เพิ่มขึ้นเป็น 500-600 บริษัท และจะผลักดันให้ธุรกิจเติบโตเพื่อย้ายเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ SET ต่อไป


แท็ก ออฟฟิศเมท   (OFM)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ