นายธีรวัฒน์ เกียรติสมภพ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไมด้า ลิสซิ่ง(ML)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ทางบริษัทฯมีแผนจะหาพันธมิตรร่วมทุนเพื่อช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการหาแหล่งเงินทุน(Funding) ซึ่งบริษัทมีความต้องการจะได้ผู้ร่วมทุนในลักษณะสถาบัน และที่ผ่านมาก็มีเข้ามาพูดคุยกันบ้างทั้งในและต่างประเทศ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
"บริษัทฯยังคงหาพันธมิตรร่วมทุนอยู่ ก็อยากได้ที่เป็นสถาบัน เพื่อมาช่วยเหลือธุรกิจในแง่ Funding ที่ผ่านมาก็มีเข้ามาพูดคุยกันอยู่หลายเจ้า ก็มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ก็ยังไม่ลงตัว"นายธีรวัฒน์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ ML กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายผลกำไรในปี 54 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% และพอร์ตสินเชื่อเติบโต 10% จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 3,000 ล้านบาท ส่วนตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)บริษัทฯก็ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ณ สิ้นปี 53 ตัวเลข NPL มีอยู่กว่า 2% เป้าหมายในปีนี้(2554)ก็จะพยายามทำให้ลดต่ำกว่าระดับ 2%
สำหรับการปล่อยสินเชื่อในปีนี้ก็คงจะไม่แตกต่างจากปีที่แล้วที่ถือว่าทำได้ดีมาก เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจค่อนข้างดี และลูกค้าของ ML จะอยู่ต่างจังหวัดเป็นหลักถึง 50% ฐานลูกค้าเป็นชาวไร่-ชาวนา ซึ่งขณะนี้พืชผลเกษตรได้ราคาดี อย่างราคาปาล์มก็สูงขึ้น น่าจะส่งผลดีต่อการปล่อยสินเชื่อของบริษัทด้วย
นอกจากนั้น บริษัทยังมีการทำโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในสัปดาห์หน้าก็จะมีการจัดงานประมูลรถยนต์ ตรงนี้ก็เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับทางเต้นท์รถด้วย
"แม้ว่าเศรษฐกิจปีนี้โดยรวมดูแล้วน่าจะดีขึ้น แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยทางด้านการเมืองด้วย ถ้าปัจจัยการเมืองมีผลกระทบน้อย ก็น่าจะส่งผลดีอย่างต่อเนื่อง"กรรมการผู้จัดการ ML กล่าว
นายธีรวัฒน์ กล่าวต่อว่า ผลการดำเนินงานในปี 53 บริษัทสามารถทำผลกำไรได้ดีกว่าปี 52 ที่มีกำไรกว่า 60 ล้านบาท เพราะเพียงแค่ 9 เดือนแรกของปี 53 บริษัทฯก็สามารถทำกำไรไปได้แล้วกว่า 100 ล้านบาท
ส่วนการจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 53 ก็คงจะต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯก่อน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯไม่ได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น เพราะบริษัทฯต้องการที่จะนำเงินไปใช้ในการดำเนินธุรกิจ
"แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นนั้น ขณะนี้ทางบริษัทฯยังไม่ได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปล่อยกู้สินเชื่อ เนื่องจากบริษัทฯ ปล่อยสินเชื่อรถมือสอง ก็ได้มีการคิดดอกเบี้ยครอบคลุมไปแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอดูแนวโน้มในเดือนหน้า(ก.พ.)ก่อน"นายธีรวัฒน์ กล่าว