นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) หรือ SYNEX คาดว่า ในปี 54 รายได้จะแตะ 2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อน เป็นผลจากการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนเข้ามาจำหน่ายเพิ่มขึ้น ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเป็นตัวแทนจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์ใหม่อีก 1-2 แบรนด์ คาดว่าจะรู้ผลภายในไตรมาส 2/54 นี้
ล่าสุด วันนี้บริษัทได้ตกลงเป็นตัวแทนจำหน่ายสมาร์ทโฟนของ HTC เป็นรายที่ 2 ในการขยายตลาดให้ครบอคลุมจังหวัดต่าง ๆ มากขึ้น จากเดิมที่จัดจำหน่ายผ่าน บมจ.เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น(SIS)เพียงรายเดียว โดย SYNEX คาดว่าการทำตลาดสินค้าในกลุ่ม HTC ในปีแรกจะมีรายได้ราว 1 พันล้านบาท
ดังนั้น หากมีข้อตกลงในการขายสมาร์ทโฟนเพิ่มเติมจะทำให้ทั้งปี 54 บริษัทจะเป็นตัวแทนจำหน่ายสมาร์ทโฟนเพิ่มเป็น 3-4 แบรนด์ ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากกการขายสมาร์ทโฟนในปีนี้จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 8-10% ของรายได้รวม จากปีก่อนที่มีสัดส่วนรายได้จากสินค้าสมาร์ทโฟนไม่ถึง 1%
"กลุ่มบริษัทในเครือซินเนคมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำธุกิจตลาดมือถือและสมาร์ทโฟน โดยซินเนคในประเทศภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคมีสัดส่วนการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง เช่น ซินเน็คประเทศไต้หวัน เป็นต้น ซึ่งประสบการณ์และความเชี่ยวชาญดังกล่าวจะทำให้ซินเนคประเทศไทยสามารถขยายธุรกิจด้านสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็ว"นายสุพันธ์ กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ บริษัทมีแผนจะเปิดตัวสินค้าใหม่ด้าน IT ด้วย
"กำไรในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้มากกว่า 20% ซึ่งเป็นผลมาจากการลดต้นทุนต่อเนื่องจากปี 53 โดยการลดต้นทุนทำได้ 0.3-0.4% ของยอดขาย ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นใกล้เคียงปีที่แล้วที่อยู่ประมาณ 5%" นายสุพันธุ์ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีร้านค้าปลีกและร้านค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ และอุปกรณ์เครื่องเขียน ที่เป็นช่องทางการขายของบริษัท รวมกันกว่า 5 พันรายทั่วประเทศ และร้านซีเน็คช็อป อีก 24 สาขา ซึ่งบริษัทสามารถรุกตลาดสมาร์ทโฟนได้ทันที โดยเพิ่มจำนวนพนักงานทำการตลาดร่วมกับ HTC
ในปี 54 บริษัทตั้งงบลงทุนอยู่ที่ 30-50 ล้านบาท เพื่อนำไปปรับปรุงสาขาและพัฒนาระบบงาน โดยแหล่งเงินจะมาจากสถาบันการเงิน และกำไรสะสมของบริษัท
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจไอทีปีนี้น่าจะเติบโต 10-12% โดยเฉพาะจะมีการเติบโตมากในสินค้าโน้ตบุ๊ค ไอแพด แทบเล็ต พีซี และสมาร์ทโฟน คาดว่าโครงการไอทีของเอกชนและภาครัฐจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีปัญหาการเมือง ขณะที่ประเด็นอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นในปีนี้ มองว่าไม่น่าจะกระทบกับสินค้าไอที เพราะส่วนใหญ่จะมีการปรับราคาลง
ขณะที่ตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้คาดว่าจะเติบโต 30% ซึ่งสินค้าของ HTC เป็นรู้จักในตลาดเป็นอย่างดีทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยให้บริษัททำการตลาดได้ง่ายขึ้น
"เชื่อว่าสมาร์ทโฟนจะโตมากขึ้น เศรษฐกิจก็ดีขึ้น ซึ่งมาร์จิ้นสมาร์ทโฟนสูงกว่าสินค้าตัวอื่น"นายสุพันธุ์ กล่าว