บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศลดอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ A จาก A+ พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ “BBB" อันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ปรับลดลงสะท้อนถึงฐานะการเงินที่อ่อนแอลงของ ACOM Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทแม่และผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ของบริษัท
ทั้งนี้ ฐานะการเงินของ ACOM ได้รับแรงกดดันเชิงลบจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นทั้งสำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และสำหรับใช้คืนเงินแก่ลูกค้าที่จ่ายดอกเบี้ยไว้เกินก่อนที่กฎระเบียบของทางการจะมีผลบังคับใช้ รวมถึงแรงกดดันจาก “Money Lending Business Law" ที่รัฐบาลญี่ปุ่นบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในเดือน มิถุนายน 2553 และภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจ อันมีผลกดดันให้ฐานะทางเครดิตของ ACOM ปรับลดลง
อันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของบริษัทยังสะท้อนการค้ำประกันเต็มจำนวนจาก ACOM ซึ่งได้รับอันดับเครดิตในะดับ Baa3 ด้วยแนวโน้ม “Negative" หรือ “ลบ" จาก Moody’s Investors Service (Moody’s) และระดับ “BBB-" ด้วยแนวโน้ม “Negative" หรือ “ลบ" จาก Standard & Poor’s (S&P) ในวันที่ 11 มกราคม 2554
โดยอันดับเครดิตของ ACOM ได้รับแรงหนุนจากฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อเพื่อการบริโภค ตลอดจนการมีผู้บริหารที่มีประสบการณ์ การมีธุรกิจที่หลากหลาย และการที่ ACOM เป็นบริษัทในเครือที่สำคัญของ Mitsubishi-UFJ Financial Group Inc. (MUFG) โดยปัจจุบัน MUFG ถือหุ้น ACOM ในสัดส่วน 40.04% ซึ่งทำให้ ACOM เป็นบริษัทย่อยที่อยู่ภายใต้การกำกับแบบรวมกลุ่มของ MUFG มาตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2551
อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวมีข้อจำกัดจากภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานและกฎระเบียบของทางการที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งมีผลกระทบในเชิงลบต่อผลประกอบการของธุรกิจให้สินเชื่อเพื่อการบริโภคที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศญี่ปุ่น แนวโน้ม “Negative" หรือ “ลบ" สำหรับอันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทอีซี่ บายสะท้อนถึงความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่ในผลประกอบการ
สำหรับปีงบประมาณ 2553 ของบริษัทแม่ผู้ค้ำประกันหุ้นกู้คือ ACOM เนื่องจากบริษัทแม่อาจได้รับแรงกดดันจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นทั้งสำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และการคืนเงินแก่ลูกค้าที่จ่ายดอกเบี้ยเกินไปก่อนที่กฎระเบียบของทางการจะมีผลบังคับใช้
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ภายใต้สัญญาการค้ำประกันที่กำหนดภายใต้กฎหมายของประเทศญี่ปุ่น บริษัทแม่ผู้ค้ำประกันจะให้การค้ำประกันเต็มจำนวนแก่หุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตดังกล่าวอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้หากบริษัทอีซี่ บายไม่สามารถชำระเงินได้ตามกำหนด ในกรณีที่บริษัทถูกฟ้องล้มละลายและมีการจ่ายคืนหนี้แก่ผู้ถือหุ้นกู้แต่หนี้นั้นถูกเรียกคืน
ภาระการชำระหนี้ดังกล่าวจะตกเป็นของบริษัทแม่ผู้ค้ำประกันและจะมีผลในการใช้หนี้ทันที นอกจากนั้น หาก ACOM มีการควบรวมกิจการ บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นหลังการควบรวมกิจการจะต้องรับภาระผูกพันในการค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าวด้วย หาก ACOM ไม่สามารถจ่ายชำระตามกำหนดหลังจากได้รับหนังสือบอกกล่าวแล้ว ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ค้ำประกัน ณ ศาลพาณิชย์ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อฟ้องร้องเรียกเงินที่ผิดนัดชำระคืนได้ ภาระผูกพันของผู้ค้ำประกันภายใต้สัญญาการค้ำประกันนี้จะมีลำดับของสิทธิเรียกร้องเท่าเทียมกับหนี้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่นๆ ของผู้ค้ำประกัน
ACOM มีผลขาดทุนสุทธิทั้งสิ้น 44 พันล้านเยน ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2553 (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2554) ลดลงอย่างมากเทียบกับกำไรสุทธิ 2.4 ล้านเยนในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2552 (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2553) โดยผลขาดทุนของ ACOM มีสาเหตุหลักจากการกันสำรองที่เพิ่มขึ้นเพื่อจ่ายคืนดอกเบี้ยที่ผู้กู้จ่ายเกินไปก่อนหน้านี้ และการลดลงของกำไรจากการดำเนินงาน จากการที่ ACOM มียอดคงค้างการให้สินเชื่อที่ลดลง ทำให้อัตราส่วนของผู้ถือหุ้นต่อเงินให้สินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจาก 22.5% ในปีงบประมาณ 2549 (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2550) เป็น 28.3% ณ เดือนกันยายน 2553
ณ เดือนกันยายน 2553 สินเชื่อรวมของบริษัทอีซี่ บายมียอดคงค้าง 26,467 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5.9% ของสินเชื่อรวมของ ACOM โดยเพิ่มขึ้นจาก 5.4% ในปีงบประมาณ 2552 (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2553) หนี้สินของบริษัทที่ได้รับการค้ำประกันจาก ACOM มีจำนวนรวม 57,658 ล้านเยน ณ เดือนมีนาคม 2553 หรือคิดเป็น 13% ของส่วนของผู้ถือหุ้นรวมของ ACOM
บริษัทอีซี่ บายเป็นบริษัทย่อยแห่งแรกในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของ ACOM และมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับ ACOM ในการเป็นผู้ประกอบการให้สินเชื่อเพื่อการบริโภครายสำคัญในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ ACOM ยังมีพันธะสัญญาที่เหนียวแน่นกับบริษัทในการให้การสนับสนุนทั้งในด้านการเงินและธุรกิจ อันได้แก่ การถ่ายทอดเทคโนโลยี ความรู้ทางธุรกิจ และพัฒนานวัตกรรมทางการเงินสำหรับตลาดในประเทศไทย