ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกจีนขึ้นดอกเบี้ย ถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ 2.49 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 21, 2011 06:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลว่าจีนอาจจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจและตัวเลขเงินเฟ้อของจีนขยายตัวยังคงขยายตัวร้อนแรง โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงแม้ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลดลง และยอดขายบ้านมือสองที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค.ก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 2.49 จุด หรือ 0.02% แตะที่ 11,822.80 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.66 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 1,280.26 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 21.07 จุด หรือ 0.77% ปิดที่ 2,704.29 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.2 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

นักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางจีนอาจจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีน ขยายตัว 10.3% ในปี 2553 ส่วนจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2553 ขยายตัว 9.8% จากระดับ 9.6% ในไตรมาส 3 หลังจากชะลอตัวลงจากระดับ 11.9% ในไตรมาสแรก และ 10.3% ในไตรมาส 2

ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนธ.ค. 2553 ขยายตัวขึ้น 4.6% ต่อปี ส่วนดัชนี CPI ในปี 2553 ขยายตัวขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับจากระดับปี 2552

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบแม้ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 15 ม.ค. ร่วงลง 37,000 ราย แตะระดับ 404,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 420,000 ราย และเป็นสถิติที่ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่รอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 6 เดือนก.พ.

นอกจากนี้ สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 12.8% แตะระดับ 5.28 หลังต่อปี ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1%

หุ้นกลุ่มโลหะร่วงลง โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แกน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ ปิดร่วง 4% แม้บริษัทเปิดเผยรายได้พุ่งขึ้น 60% ในไตรมาส 4 ขณะที่หุ้นดูปองท์ปิดร่วง 1.6% และหุ้นดาว เคมิคอล ปิดร่วง 2.5%

หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ปิดบวก 5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้พุ่งขึ้น 60% ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นผลมาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธุรกิจวาณิชธนกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ