นายมาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.กรุงศรีอยุธยา(BAY) เปิดเผยว่า ในปี 54 ธนาคารตั้งเป้าขยายสินเชื่อมากกว่า 8% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องจากปี 53 ที่สินเชื่อธนาคารเติบโตสูงถึง 11% โดยในปีนี้จะเป็นปีที่ควบรวมกิจการกับกลุ่มจีอีแล้วเสร็จ ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้ธนาคารมากขึ้น ขณะเดียวกัน ธนาคารยังมองโอกาสเข้าซื้อกิจการอื่นต่อไป
ธนาคารมองว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโต 3.5-4.5% ส่วนแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ยังเป็นขาขึ้นโดยจะปรับขึ้นก่อนสิ้นปีนี้ไปที่ 2.75-3.00% ขณะที่ธนาคารคงมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามตลาด
นายอาร์โนลด์ กล่าวว่า ในปี 54 ส่วนต่างดอกเบี้ย(NIM)จะลดลงเป็น 4.75% จากปี 53 เฉลี่ยที่ 5.07% แต่ยังเป็นธนาคารที่มี NIM สูงสุดในระบบ อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ สาเหตุที่ NIM ปีนี้ลดลงจากปีก่อน เนื่องจากต้องดูสภาพการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อองค์กร และเอสเอ็มอี ซึ่งธนาคารเลือกที่จะรับผลตอบแทนที่ต่ำลง แต่เป็นสินเชื่อที่มีคุณภาพ
ขณะที่การปล่อยสินเชื่อปี 54 ตั้งเป้าขยายตัว 8% หรือคิดเป็น 5.6 หมื่นล้านบาท จากปี 53 ที่เติบโต 11% หรือคิดเป็น 6.05 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อองค์กรและเอสเอ็มอีขยายตัวเป็นสองเท่าของอัตราการเติบโตของจีดีพี ขณะที่สินเชื่อรายย่อย ตั้งเป้าเติบโตเป็น 3 เท่าของจีดีพี และเน้นขยายสินเชื่อรายย่ยอยจากปี 53 มีสัดส่วน 42% เป็น 44%
ในขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Gross NPL) ปี 54 ตั้งเป้าไม่เกิน 5% จากสิ้นปี 53 อยู่ที่ 5.4% ขณะเดียวกันมีแผนจะขาย NPL เพิ่มขึ้นอีกในราคาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ระดับ NPL ของธนาคารปรับตัวดีขึ้นมาก ซึ่งจะเป็นฐานการเติบโตในการปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น
สำหรับอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น(ROE)ในปี 53 อยู่ที่ระดับ 9.2% และธนาคารตั้งเป้าในปี 56 มีระดับ ROE เป็น 1 ใน 3 ของระบบธนาคาร
ส่วนการควบรวมกิจการปีนี้ธนาคารอยู่ในสถานะที่สามารถเข้าซื้อกิจการได้มากกว่าปีก่อนที่ธนาคารมุ่งเน้นให้การควบรวมกิจการกับจีอีมันนี่ให้เสร็จสมบูรณ์ ดังนั้น ในปีนี้ถือว่าโอกาสเปิดสำหรับการมองหาซื้อกิจการเพื่อให้ธนาคารเติบโตต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเจรจาซื้อกิจการจากรายใด
นายอาร์โนลด์ กล่าวว่า ธนาคารยังไม่มีแผนออกหุ้นกู้ในช่วงนี้ เนื่องจากธนาคารมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนเงินฝากออมทรัพย์และกระแสรายวัน(CASA) จาก 41% เป็น 45% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการระดมเงินฝากเพื่อให้สอดคล้องกับการปล่อยสินเชื่อ แต่อย่างไรก็ตาม หากช่วงใดดอกเบี้ยหุ้นกู้มีระดับราคาที่เหมาะสม ธนาคารพร้อมที่จะพิจารณาออกหุ้นกู้