นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) คาดการเจรจาซื้อหุ้นสายการบินนกแอร์กับธนาคารกรุงไทย(KTB) จะจบในเร็วๆนี้ โดยวันที่ 26 ม.ค.นี้จะมีการเจรจากัน ซึ่งที่ผ่านมาได้คุยกันในระดับคณะทำงานระหว่างกัน
"หวังว่าจะได้ข้อสรุปได้ในไม่ช้า ราคาที่เราเสนอไปปรับขึ้นมา 30 บาทต่อหุ้น จากราคาพาร์ 10 บาท ซึ่งถือให้มากถึง 3 เท่า" นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวว่า เท่าที่ทราบ สายการบินนกแอร์ได้ปรับตัวเลขประมาณการผลประกอบการในปี 54 ลงจากปี 53 เนื่องจากปี 54 ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ การบินไทยได้เสนอราคาซื้อหุ้นสายการบินนกแอร์ที่ราคา 30 บาทต่อหุ้น รวมจำนวน 5 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 10% เป็นเงินทั้งสิ้น ปรับขึ้นมาจากเดิมที่เสนอซื้อที่ 13 บาทต่อหุ้น ขณะที่ KTB เสนอขายที่ ราคา 44 บาทต่อหุ้น หากการซื้อหุ้นได้ข้อยุติจะทำให้ THAIมีสัดส่วนการถือหุ้นสายการบินนกแอร์เพิ่มจาก 39% เป็น 49%
ขณะทีเดียวกัน นายปิยสวัสดิ์ กล่าวยอมร้บว่า ราคาน้ำมันในปีนี้สูงขึ้นกว่าปีก่อนส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ บริษัทก็ยังดำเนินการทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันต่อเนื่อง ซึ่งตามนโยบายสามารถเข้าไปทำได้ระหว่าง 20-80% โดยในครึ่งหลังปี 53 บริษัทได้เข้าทำประกันความเสี่ยงประมาณ 69%ของปริมาณการใช้น้ำมัน
แต่ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ระดับทำประกันความเสี่ยงได้ประมาณ 40% เพราะราคาน้ำมันสูงขึ้นและไม่มีจังหวะเข้าทำประกันความเสี่ยง หากราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น การทำประกันความเสี่ยงจะช่วยประวิงเวลาให้บริษัทปรับขึ้นราคาตั๋วโดยสารได้ช้าลง นอกจากนี้ยังมีการเก็บค่าธรรมเนียมน้ำมัน(Fuel Surcharge) ที่ปรับขึ้นลงตามราคาน้ำมันได้
ดังนั้น ราคาตั๋วโดยสารโดยเฉลี่ยในปีนี้จะปรับขึ้นไม่มาก จากปีก่อนหรือไม่ถึง 5% เพราะมีการแข่งขันกันมากในธุรกิจการบินทั้งระดับพรีเมียมและสายการบินโลว์คอสต์ นอกจากนี้ในปีนี้จะมีการรับมอบเครื่องบิน 7 ลำจะช่วยลดต้นทุนน้ำม้นได้
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ในวันที่ 25 ก.พ.นี้ จะนำเสนองบประมาณการจัดซื้อเครื่องบินใหม่ 37 ลำ และว่าประมาณเดือนก.ย. 54 จะได้ข้อสรุปและเซ็นสัญญาในการซื้อเครื่องบินได้