หุ้น QH บวก 0.99% อยู่ที่ 2.04 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท เมื่อเวลา 14.40 น.โดยเปิดตลาดที่ 2.04 บาท สูงสุดที่ 2.08 บาท ต่ำสุดที่ 1.99 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QH) ได้รับการตอบรับอย่างดีจากกองทุนต่างประเทศในการโรดโชว์ในงาน DBSV POA Conference ที่สิงคโปร์เมื่อไม่นานมานี้
QH ยังคงเน้นการพัฒนาและจำหน่ายบ้านแนวราบ และมีสัดส่วนเป็น 75-80% ของรายได้ในกลุ่ม QH ใน 2-3 ปีข้างหน้านี้ คาดการณ์กำไรสุทธิในงวด 4Q54 ก็มีการเติบโตก้าวกระโดดถึง 115% q-o-q เป็น 440 ล้านบาท เพราะนอกจากรายได้จากการขายบ้านที่เพิ่มแล้ว ก็เริ่มมีการรับรู้รายได้คอนโดมิเนียมเกรด A ที่หลังสวน
แต่กำไรสุทธิ 4Q53 ลดลงเล็กน้อย 1% y-o-y เนื่องจากไม่สามารถประหยัดภาษีได้หลังหมดอายุมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ยอดขาย 4Q53 ก็ปรับตัวดีขึ้น หลังเปิดขายโครงการใหม่เชิงรุกในปลาย 3Q53-4Q53 คาดว่ายอดขายจะดีต่อเนื่องในปี 54 เพราะจะมีการเปิดขายโครงการใหม่มากถึง 22 โครงการ
ส่วนคาดการณ์กำไรสุทธิปี 53 ที่ใกล้ประกาศเติบโตดีเป็น 18% y-o-y แต่ปี 54 เติบโต 3% y-o-y หลังหมดอายุมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ
จุดเด่นใหม่ที่จะมีส่วนช่วยเสริมราคาหุ้น QH ได้ดีในอนาคตคือ มีการนำ LH Financial Group (LHFG) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มที่ QH ถือหุ้น 26% เข้า IPO ในตลาดฯซึ่งตามแผนจะเป็นกลางปี 54 ทั้งนี้ LHFG ถือหุ้น 100% ในธนาคาร LH ก็จะทำให้ QH มีกำไรจากส่วนต่างราคาในอนาคต เมื่อราคา IPO สูงกว่าต้นทุน ต้นทุนต่อหุ้นของ QH เป็น 1.05 บาท (cost method) และเป็น 1.06 บาท(equity method)
การเปิดขายโครงการใหม่ปีนี้ที่ 22 โครงการ มูลค่าขาย 27.8 พันล้านบาท มากกว่าปี 53 ที่ 16 โครงการ มูลค่าขาย 23.1 พันล้านบาท และจะเจาะตลาดกลุ่มระดับปานกลางสำหรับบ้านเดี่ยวเพิ่มมากขึ้น มีการวางแผนเริ่มทำตลาดบ้านสไตล์รีสอร์ทที่ต่างจังหวัด ด้วยการเปิดขายโครงการใหม่เจาะตลาดกลุ่มปานกลาง 2 โครงการ คือที่ จ.ระยอง และ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ใน 3Q54
ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่เป็นส่วนลดอย่างมากจากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของบริษัท(RNAV)ที่ 3.0 บาท และเทียบเท่ากับ P/E ปี 54 ที่ระดับถูกคือ 8.2 เท่า กอปรกับคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 54 ที่น่าสนใจคือ 7.2% เห็นว่า catalyst สำหรับราคาหุ้น คือ แผนการนำ LHFG ที่ถืออยู่ 26% เข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์ประมาณกลางปี 54 นี้