นายวิน วิริยะประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหวิริยา สตีลอินดัสตรี(SSI) เปิดเผยว่า ในปี 53 บริษัทสามารถล้างขาดทุนสะสมทั้งหมดได้ แต่จะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้หรือไม่ คงจะต้องรอการพิจารณาจากคณะกรรมการบริษัทอีกครั้ง
"เรื่องล้างขาดทุนสะสม บริษัทจัดการเรียบร้อยแล้วจากการนำกำไรสุทธิมาล้างขาดทุนสะสมทั้งจำนวน แต่การจ่ายปันผลจะต้องมาดูกัน เพราะบริษัทไม่ได้จ่ายปันผลมาหลายปี ก็อยากจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น แต่ยังติดปัญหาที่จะต้องจัดการ จึงต้องพิจารณาอีกครั้ง" นายวิน กล่าวหลังการประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้
นายวิน กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังมีงานสำคัญที่จะต้องขายหุ้นเพิ่มทุน เพื่อเข้าซื้อกิจการโรงถลุงและผลิตเหล็ก Teesside ในอังกฤษ มูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคาดว่ากระบวนการซื้อกิจการโรงถลุงเหล็กจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ. 54 และสามารถเริ่มการผลิตได้ในอีก 6 เดือนหลังจากนั้น
"ตอนนี้บริษัทพยายามทำให้กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 1 ปี 54 แต่เชื่อว่าในเดือนกุมภาพันธ์ ก็น่าจะแล้วเสร็จหลังวันนี้ผู้ถือหุ้นอนุมัติ"นายวิน กล่าว
นายวิน กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการโรงถลุงและผลิตเหล็กดังกล่าวจะทำให้กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 3 ปีข้างหน้า จากขณะนี้มี EBITDA เฉลี่ยที่ 100 ล้านเหรียญ
นอกจากนั้น ภายใน 3 ปีข้างหน้าบริษัทก็จะนำบริษัท สหวิริยาสตีล ยูเค(SSI UK)เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ซึ่งเป็นตลาดที่มีความสำคัญในกลุ่มอุตสาหกรรมเหมืองแร่และถลุงเหล็ก และก่อนหน้านี้กลุ่มทาทาสตีล ซึ่งเคยซื้อกิจการ Teesside ได้เคยนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ลอนดอน แต่ได้ขอออกจากตลาดหลักทรัพย์ในภายหลัง
นายวิน ยังเชื่อมั่นว่า แผนการเสนอขายหุ้นเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจะประสบความสำเร็จ แม้ว่าในช่วง 2-3 วันนี้ราคาหุ้น SSI ในกระดานหลังจะปรับลดลงไปตามภาพรวมตลาด โดยมองว่าราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่ 1.20 บาท/หุ้น เป็นราคาเหมาะสม และน่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นรายย่อย เพราะเป็นราคาที่เปรียบเหมือนเป็นโบนัสให้กับผู้ถือหุ้น ขณะที่แนวโน้มธุรกิจบริษัทมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
อย่างไรก็ตาม หากผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนไม่หมดทั้งจำนวน บริษัทก็พร้อมจะนำเสนอขายหุ้นให้กับกลุ่มนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP) ในราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่า 1.20 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ บริษัทได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 2,620 ล้านหุ้น ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในสัดส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่
นายวิน กล่าวอีกว่า แม้ว่าล่าสุดบริษัทจะตัดสินใจเข้าซื้อกิจการโรงถลุงและผลิตเหล็กในอังกฤษไปแล้ว แต่บริษัทก็ยังคงเดินหน้าศึกษาการลงทุนโรงผลิตเหล็กในนิคมอุตสาหกรรมทวายของพม่า เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ จำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณา แต่ยืนยันว่าไม่ยกเลิกแนวคิดที่จะก่อสร้างโรงถลุงเหล็กเพิ่มเติม
ด้านนายวิทย์ วิริยะประไพกิจ ประธานกรรมการ SSI กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่า SSI ยังเห็นความสำคัญการลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากเริ่มสร้างโรงเหล็กโรงแรกที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แม้ว่าจะมีปัญหาการต่อต้านและความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม
แต่บริษัทยังสนใจที่จะลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะโรงถลุงเหล็กในพื้นที่ อ.บางสะพาน หรือ อ.ปะทิว จ.ชุมพร และบริษัทก็ได้ดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมและพิสูจน์ถึงกระบวนการถลุงเหล็กว่าไม่ได้สร้างปัญหามลพิษ จนชาวบ้านในพื้นที่ทั้งสองอำเภอต้องการ SSI เข้าไปลงทุน