ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 3.33 จุด หลังราคาบ้านในสหรัฐร่วงเกินคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 26, 2011 06:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ร่วงลงเกินคาดในเดือนพ.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังถูกกดดันจากรายงานผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทหลายแห่ง รวมถึง 3M และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 3.33 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 11,977.19 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.34 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 1,291.18 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 1.70 จุด หรือ 0.06% แตะที่ 2,719.25 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนิวยอร์ก ไมอามี และบอสตัน ประจำเดือนพ.ย.ปี 2553 ร่วงลง 1.6% จากระดับของเดือนพ.ย.ปี 2552 มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 0.8% ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ

ผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทหลายแห่งยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนตัวลงด้วย โดยหุ้น 3M ปิดร่วงลง 2% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ลดลงเนื่องจากต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปิดลบ 1.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้หดตัวลง 12% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทต้องแบกรับต้นทุนในการเรียกคืนผลิตภัณฑ์จำนวนมาก

นอกจากนี้ หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ปิดร่วง 2.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท อย่างไรก็ตาม หุ้นดูปองท์ปิดบวก 0.3% แม้บริษัทเปิดเผยรายได้ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่หุ้นเวริซอนปิดบวก 1.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรทะยานขึ้น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นก่อนที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐจะแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ในช่วงเช้าวันที่ 26 ตามเวลาประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าโอบามาจะเรียกร้องให้พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันปรองดองกันเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติและหนุนเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าโอบามาจะตัดสินใจอนุมัติโครงการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลในระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีครั้งนี้ด้วย

คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 60.6 จุด จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 53.3 จุด ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค. และเฟดจะประกาศมติการประชุมนโยบายการเงิน วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค., กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2553 ครั้งที่ 1, กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 4 ปี 2553 และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ