นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยว่าในปี 53 บริษัทมียอดขายสุทธิ จำนวน 3.01 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากปี 52 และมีกำไรสุทธิ 3.73 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากปีก่อน โดยมาจากการดำเนินธุรกิจหลัก และส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในบริษัทร่วม
โดยปี 53 มี EBITDA เท่ากับ 45,949 ล้านบาท ลดลง 2% จากปีก่อน เนื่องจาก Margin ของธุรกิจเคมีภัณฑ์ลดลง
ส่วนในช่วงไตรมาส 4/53 บริษัท มีกำไรสุทธิ 1.66 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 213% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก บริษัทมีกำไรจากการขายหุ้นบมจ.ปตท.เคมิคอล ( PTTCH)
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 30 มี.ค.54 เพื่อจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 53 ในอัตราหุ้นละ 8 บาท กำหนดรายชื่อผู้รับเงินปันผลวันที่ 8 เม.ย.และปิดสมุดทะเบียนวันที่ 11 เม.ย.นี้ และกำหนดจ่ายปันผล 27 เม.ย.54
นายกานต์ กล่าวว่า บริษัทยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม โดยได้งบประมาณสำหรับการวัจัยและพัฒนาถึงเกือบ 1 พันล้านบาท เพื่อสร้างสินค้าในกลุ่ม high value (HVA) ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 29% ของยอดขายรวมปี 53 สำหรับปี 54 บริษัทจะเดินหน้าสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภค ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมโดยรวม
SCC ยังรายงานว่า ธุรกิจหลักของบริษัทในปี 53 ได้แก่ ธุรกิจปิโตรเคมี หรือ เอสซีจี เคมิคอลส์มียอดขายสุทธิ เท่ากับ 144,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% จากปีก่อน เนื่องจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยธุรกิจมี EBITDA เท่ากับ 16,024 ล้านบาท ลดลง 18% จากปีก่อน เนื่องจาก Margin ที่ลดลง ขณะที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 22,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80% จากปีก่อน เนื่องจากการขายหุ้น PTTCH
ธุรกิจกระดาษ หรือเอสซีจี เปเปอร์มียอดขายสุทธิ เท่ากับ 51,714 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน เนื่องจากราคาขายและปริมาณขายผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นและปริมาณการผลิตของโรงงานในเวียดนามที่เพิ่มขึ้น โดย ธุรกิจมี EBITDA เท่ากับ 9,129 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน เนื่องจาก Margin ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้มีกำไรสุทธิเท่ากับ 3,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากปีก่อน
ธุรกิจปูนซีเมนต์ หรือ เอสซีจี ซิเมนต์ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ 48,954 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จาก ปีก่อน เนื่องจากปริมาณขายในประเทศเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายลดลง โดยธุรกิจมี EBITDA เท่ากับ 10,810 ล้านบาท ลดลง 7% จากปีก่อน ทั้งนี้ธุรกิจมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 6,014 ล้านบาท ลดลง 3% จากปีก่อน โดยในไตรมาสที่ 4/53 ราคาขายในประเทศอยู่ที่ 1,700-1,800 บาทต่อตัน ในขณะที่ปริมาณ ความต้องการในประเทศลดลง 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากผลกระทบน้ำท่วม
และ เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น มียอดขายสุทธิ เท่ากับ 96,898 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน เนื่องจากภาคการก่อสร้างปรับตัวดีขึ้น โดยธุรกิจมี EBITDA เท่ากับ 1,440 ล้านบาท ลดลง 9% จากปีก่อน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายการตลาดเพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 1,061 ล้านบาท ลดลง 1% จากปีก่อน