โบรกฯเชียร์ CPF ราคาหุ้นถูก,ปี 54 โตต่อเนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ทรงตัวสูง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 26, 2011 15:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ยังเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF)มองราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมามากแล้ว ทั้งที่ภาพโดยรวมของ CPF ในปีนี้ยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากราคาผลิตภัณฑ์ที่ทรงตัวสูงทั้งหมู,ไก่ และกุ้ง แม้มาร์จินอาจหดลงไปบ้างจากต้นทุนวัตถุดิบที่มีแนวโน้มสูง แต่ CPF ได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสำหรับข้าวโพดและกากถั่วเหลืองไว้แล้วส่วนหนึ่ง

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นหนุนจาก FAO เตือนโลกกำลังเข้าใกล้วิกฤตการณ์ด้านอาหาร ทำให้คาดว่าราคาหมู ไก่ และกุ้งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปี 54 จากต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์สูงขึ้นตามราคากากถั่วเหลือง, ข้าวโพด และปลาป่น รวมทั้ง อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐ ซึ่งเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ในประเด็นนี้ CPF จะได้รับประโยชน์มากที่สุด

นอกจากนั้น ทางเยอรมนีได้สั่งปิดฟาร์มสัตว์ปีกและฟาร์มหมู เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการปนเปื้อนของสารไดออกซิน ทำให้คาดว่าปริมาณการส่งออกเนื้อไก่ของไทยไปอียูจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับเทศกาลตรุษจีนปีนี้ทาง CPF ก็จะได้รับผลบวกจากราคาหมู, ไก่ ที่ทรงตัวสูง และยังได้รับผลดีจากจำนวนขายที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลกำไรในไตรมาส 1/54 คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่ง

อีกทั้งปีนี้เชื่อว่ายอดขายของ CPF จะมีการเติบโตดี จากการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศด้วย พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 54 ของ CPF ไว้ที่ 13,798-14,525 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 13,391-13,157 ล้านบาท

          โบรกเกอร์                      คำแนะนำ           ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.ทรีนีตี้                        ซื้อ                 33.50
          บล.ฟาร์อีสท์                      ซื้อ                 32.55
          บล.บัวหลวง                      ซื้อ                 27.00
          บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)             ซื้อ                 25.75
          บล.กสิกรไทย                     Outperform         26.00
          บล.เอเชีย พลัส                   ถือ                 25.41
          บล.ทิสโก้                        ถือ                 26.25
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)    ถือ                 24.90

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า แม้ว่าแนวโน้มกำไรในงวดไตรมาส 4/53 จะอ่อนตัวมาที่ 2,000 ล้านบาท เป็นผลจาก Low Season แต่ราคาหุ้น CPF ก็ได้รับรู้ไปแล้ว ดังนั้น คำแนะนำให้ซื้อเป็นการซื้อเพื่อการเติบโตที่ดีในปี 54 จากราคาผลิตภัณฑ์ที่ยังทรงตัวสูง ไม่ว่าจะเป็นหมู,ไก่ และกุ้ง ทำให้มาร์จินเป็นผลบวกต่อ CPF

นอกจากนี้ ทาง CPF ได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสำหรับพวกข้าวโพด, กากถั่วเหลือง ไว้แล้ว ซึ่งเป็นการล็อกราคาไว้แล้ว ดังนั้นภาพโดยรวมของ CPF ในปีนี้จึงเป็นบวก

นายปริญทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับเทศกาลตรุษจีนทาง CPF ก็จะได้รับผลบวกจากราคาหมู, ไก่ ที่ทรงตัวสูง และยังได้รับผลดีจากจำนวนขายที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งก็เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลกำไรในไตรมาส 1/54 คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่ง

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 54 ของ CPF ไว้ที่ 14,525 ล้านบาท เติบโต 8.55% จากปี 53 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 13,391 ล้านบาท

น.ส.นารี อภิเศวตกานต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า ได้เปลี่ยนคำแนะนำหุ้น CPF ขึ้นมาเป็น"ซื้อ"หลังจากที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงแรง

แต่ก็มองว่าปีนี้ CPF คงจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น แม้ว่าปีนี้ราคาผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นหมู, ไก่, กุ้ง ยังทรงตัวในระดับสูง หากมองการเติบโตของกำไรในปีนี้คงจะสู้ปีที่แล้วไม่ได้ อย่างไรก็ดี CPF ก็ได้ทำการล็อคราคาวัตถุดิบไว้แล้วโดยการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไว้ ทั้งข้าวโพด และกากถั่วเหลืองที่ปีนี้มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น

พร้อมคาดกาณณ์กำไรสุทธิปี 54 ไว้ที่ประมาณ 14,000 ล้านบาทเศษ เติบโตจากปี 53 ประมาณ 3%

น.ส.นริน วิริยะเสถียร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)กล่าวว่า ได้แนะนำ"ถือ"หุ้น CPF ด้วยราคาเป้าหมาย 24.9 บาท/หุ้น ซึ่งหากราคาหุ้นปรับตัวลงมากก็อาจจะปรับคำแนะนำเป็น"ซื้อ"ได้ แต่ราคาหุ้นที่ถูกลงมาในขณะนี้ยังมองว่าไม่ได้ถูกมาก โดยเทรด P/E 11 เท่า ซึ่งหมวดอาหารจะเทรดอยู่ 9 เท่า

ทั้งนี้ CPF คงจะเจอปัญหามาร์จินหดตัวลงในปีนี้ เป็นผลจากต้นทุนวัตถุดิบหลักปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าจะมีการล็อคราคาวัตถุดิบไว้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำทั้งหมด ดังนั้น จึงเป็นไปได้ยากเหมือนกันที่ปีนี้ CPF จะมีการเติบโตดีเหมือนปี 53 แม้ว่าราคาผลิตภัณฑ์จะทรงตัวสูงก็ตาม

อย่างไรก็ดี ปีนี้ CPF คงจะมีวอลุ่มขายที่เติบโตมาก จากการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง และยังมีการขยายการลงทุนไปยังตลาดต่างประเทศด้วย พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 54 ไว้ที่ 13,798 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 13,157 ล้านบาท

ขณะที่บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ฉบับวันนี้ได้ระบุว่า นายฌากส์ ดูฟ ผู้อำนวยการองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เตือนว่าโลกกำลังเข้าใกล้การเกิดวิกฤตการณ์ด้านอาหาร และเรียกร้องให้มีการออกกฏควบคุมการเก็งกำไรในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า ทั้งนี้ในเดือนธ.ค.53 ดัชนีราคาทั่วโลกของ FAO ขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

หุ้นเด่นในกลุ่มอาหาร คือ CPF, GFPT และ TUF ทั้งนี้คาดว่าราคาไก่ สุกร และกุ้งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปี 54 เนื่องจากต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์สูงขึ้นตามราคากากถั่วเหลือง, ข้าวโพด และปลาป่น และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐ ซึ่งเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น และในประเด็นนี้ CPF จะได้รับประโยชน์มากที่สุด เพราะสหรัฐเป็นตลาดส่งออกหลัก ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำให้ทยอยซื้อลงทุนใน CPF

ส่วนบล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น CPF ประเมินมูลค่าเหมาะสม 33.50 บาท อิงค่าPER ถัวเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอาหาร ที่รวบรวมได้ 136 บริษัททั่วโลก ซึ่ง Fair Value ดังกล่าวก็ยังสะท้อนเพียงกำไรและการเติบโตที่ยังดีต่อไปในปี 2554 และเน้นในช่วง High Season ที่อยู่ระหว่างไตรมาส 2 และไตรมาส 3 แต่ในระยะสั้นเห็นว่าควรเข้าซื้อที่ 21-22 บาท และเป้าหมายสั้นในช่วงตลาดหุ้นผันผวน อาจไปได้เพียง 24 บาทก่อน ณ ไตรมาส 1/54

CPF ได้รับผลบวกจากการที่เยอรมนีได้สั่งปิดฟาร์มสัตว์ปีกและฟาร์มหมู เมื่อวันที่ 15 ม.ค.54 เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการปนเปื้อนของสารไดออกซิน ทำให้คาดว่าปริมาณการส่งออกเนื้อไก่ไปอียูของไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนผลผลิตในประเทศและทวีปยุโรป กรณีนี้อาจส่งผลบวกต่อผู้ส่งออกเนื้อไก่จากไทย เช่น CPF และ GFPT

นอกจากนี้ ยังเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมอาหารจะดีขึ้นตามกระแส Global Food Inflation ในขณะที่ธุรกรรมของ CPF ในส่วน Food สามารถเปิดตลาดใหม่ได้อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศ (ผ่าน CP Fresh Mart) และในต่างประเทศ โดยล่าสุดเจาะตลาดอเมริกาได้ด้วยเกี๊ยวกุ้ง ซึ่งเป็น Signature Dish ของ CPF


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ