นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) คาดยอดขายปี 54 เพิ่มเป็น 3.3 แสนล้านบาท หรือ เติบโต 10% จากปีก่อนที่มียอดขาย 3 แสนล้านบาท มาจาการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตปิโตรเคมีของบริษัท
ทั้งนี้ คาดว่าธุรกิจปิโตรเคมีจะมียอดขายโตกว่า 10% และผลิตภัณฑ์หลัก เช่น โพรโพลีน, HDPE ยังมีราคาสูง และมีส่วนต่างราคากับวัตถุดิบทีดีต่อเนื่อง ขณะที่เชื่อว่าโครงการที่บริษัทเข้าร่วมทุน 3-4 โครงการในพื้นที่มาบตาพุดน่าจะกลับมาเดินเครื่องได้ในช่วงไตรมาส 3/54 หลังจากหยุดชะงักกรณีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในมาบตาพุด
ส่วนธุรกิจซีเมนต์ ในปีนี้ คาดว่ายอดใช้ปูนซิเมนต์ในประเทศจะเติบโต 7-8% เนื่องจากมีการก่อสร้างโครงการด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดใหญ่ และการลงทุนของต่างชาติที่ยังมีต่อเนื่องน่าจะช่วยให้การใช้ปุนซิเมนต์เพิ่มขึ้น แต่ราคาที่ปรับลดลงในปีก่อน ยังคงเป็นปัญหากดดันให้กำไรในธุรกิจซิเมนต์ปรับลดลงราว 3% แม้ว่ายอดขายเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เห็นว่าราคาขายปูนซิเมนต์ควรปรับขึ้น เนื้องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นโดยเฉพาะถ่านหินปัจจุบันมีราคามากกว่า 100 เหรียญ/ตันทำให้ผู้ผลิตปูนต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสูงมาก
สำหรับธุรกิจกระดาษในปี 54 บริษัทคาดว่ายังคงเติบโตต่อเนื่องจากปี 53 เนื่องจากราคาขายผลิตภัณฑ์ และภาวะเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น และล่าสุดช่วงปลายปีที่ผ่านมาบริษัทได้ซื้อกิจการผลิตกระดาษในประเทศเวียดนามเข้ามาเพิ่มเติม ทำให้กำลังการผลิตโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น
นายกานต์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาทเพื่อใช้ซื้อกิจการมใหม่และลงทุนด้วยตัวเอง นอกจากนั้น ยังเพื่อใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงเครื่องจักร รวมถึงงานวิจียและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม วงเงินรวมประมาณ 4-5 พันล้านบาท
โครงการที่บริษัทมีแผนลงทุนเอง ได้แก่ โรงปูนซิเมนต์ที่ประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะได้ข้อสรุปตัวเลขและขนาดการลงทุนภายในปีนี้ แต่ส่วนใหญ่บริษัทมุ่งเน้นการเติบโตด้วยวิธีการเข้าซื้อกิจการ (M&A)
ส่วนโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในเวียดนาม ขณะนี้ยังติดปัญหาเรื่องโครงสร้างทางการเงินเนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ แต่คาดว่าจะได้ข้อขัดเจนในกลางปี 54 และ บริษัทมีความสนใจลงทุนในโครงการนิคมอุตสาหกรรมทวายของพม่า แต่ไม่ใช่ลงทุนธุรกิจซิเมนต์ เพราะสถานที่ไกลจากแหล่งวัตถุดิบมาก
นายกานต์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนขายหุ้นบมจ.ปตท.เคมิคอล (PTTCH) เพิ่มเติม หรือหากมีแผนก็ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากทั้งสองบริษัทอยู่ในต่างอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนกระแสข่าวก่อนหน้านี้ SCC จะเข้าซื้อหุ้นบมจ.ไออาร์ซีพี (IRPC) นั้น เป็นเพียงข่าวลือในตลาดหุ้นเท่านั้น
"เมื่อสองวันก่อนที่มีข่าวว่า SCC จะไปซื้อ IRPC ไม่รู้เกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นเพียงช่าวลือเท่านั้น ส่วนเรื่องการขายหุ้น PTTCH คงเป็นเรื่องยากที่จะเปิดเผย" กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCC กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ โดยครั้งแรกจะออกหุ้นกุ้จำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดในเดือนเม.ย. 54 ซึ่งคณะกรรมการบริษัทได้มีมติวันนี้ให้ออกและเสนอขายหุ้นกุ้จำนวนดังกล่าวแล้ว และในเดือน พ.ย. 54 บริษัทจะออกหุ้นกู้ จำนวน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกุ้ที่ครบกำหนดอายุในเดือนพ.ย.นี้ เช่นกัน