หุ้น DCC ปิดครึ่งวันแรกที่ 3.57% มาอยู่ที่ 50.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 21.26 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 49.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 50.75 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 49.50 บาท
นายมารุต แสงศาสตรา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ บมจ.ไดนาสตี้เซรามิค(DCC)เปิดเผยกับ"อินโฟเควส์ท"ว่าราคาหุ้น DCC ที่ปรับขึ้นมาในวันนี้ น่าจะเกิดจากการรีบาวด์ทางเทคนิค จากก่อนหน้าที่ราคาปรับตัวลงไป รวมทั้งการเติบโตของบริษัทที่มีแผนขยายกำลังการผลิตที่มากขึ้นจากปีก่อน รวมทั้งข่าวที่มีกองทุนต่างประเทศสนใจเข้ามาถือหุ้น
บริษัทยังเชื่อว่ากำไรสุทธิในปีนี้คงเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนที่กำไรสุทธิเติบโต 18% แม้ต้นทุนทุนพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะก๊าซและน้ำมัน เนื่องจากการที่บริษัทได้ปรับกลยุทธด้วยการหันมาเร่งผลิตกระเบื้องที่มีมาร์จิ้นสูง ขนาด 16X16 ที่ปัจจุบันเป็นที่นิยม รวมทั้งการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 61 ล้านตารางเมตร/ปี จาก 58 ล้านตารางเมตร/ปี ในปีก่อนด้วยการเพิ่มเตาใหม่ด้วยเงินลงทุน 240-280 ล้านบาท ที่จะเริ่มผลิตได้ประมาณ ก.ค.54
การเพิ่มการผลิตดังกล่าวจะส่งผลให้อัตรากำไร(มาร์จิ้น)เพิ่มเป็น 44-45 % แม้จะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ในระดับ 44.2% แต่ก็สามารถชดเชยปัจจัยที่เข้ามากระทบไปได้ด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนในการขยายสาขาเพิ่มอีก 10-15 สาขา ด้วยเงินลงทุน 5-6 ล้านบาท/แห่ง ในพื้นที่ภาคใต้และภาคเหนือ
"กำไรสุทธิปีนี้คงตะเติบโตต่อเนื่องตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้ แม้ปีนี้ต้นทุนพลังงานจะเป็นตัวแปรที่สำคัญของเรา แต่การที่ราคาสินค้าเกษตรปรับเพิ่มขึ้นก็น่าจะทำให้กำลังซื้อของคนเพิ่มขึ้นด้วย ตอนนี้เราก็เร่งหาวิธีในการเพิ่มมาร์จิ้นเพื่อทดแทน ซึ่งไม่น่ามีปัญหา"นายมารุต กล่าว
นายมารุต กล่าวว่า ที่ผ่านมามีกองทุนต่างชาติให้ความสนใจบริษัทค่อนข้างมาก โดยได้มีการพูดคุยหลายรายทั้งกองทุนเดิมที่ถือหุ้นในบริษัทอยู่แล้ว และกองทุนต่างประเทศหน้าใหม่ ๆ ที่มีขนาดเม็ดเงิน 500-1 พันล้านเหรียญสหรัฐที่ขอเจรจาเข้าถือหุ้น แต่บริษัทยืนยันว่าจะไม่ขายหุ้นที่ถืออยู่แน่นอน หรือแม้แต่พันธมิตรร่วมทุนก็ยังไม่มีแผนเช่นกัน