นายชาญ ศิริรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและฝ่ายวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในเครือ บมจ.แสนสิริ(SIRI) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปีนี้ที่ 110 ล้านบาท เติบโต 10% จากปี 53 ที่มีรายได้ 100 ล้านบาท โดยจะเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่อีกกว่า 40% ด้วยการขยายงานไปสู่การบริหารโครงการใหม่เพิ่ม 10 โครงการ เป็นกลุ่มอาคารสำนักงานที่บริหารจัดการเอง (in-sourcing) 6 โครงการ และอาคารการศึกษา 4 โครงการ
ในปีนี้ พลัส ยังคงมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการเป็น บริษัทผู้ให้บริการด้านธุรกิจบริหารทรัพยากรอาคารคุณภาพในมาตรฐานระดับสากล ที่เน้นการทำงานเชิงรุก ภายใต้ศักยภาพของทีมงานมืออาชีพกว่า 300 คน ครอบคลุมทั้งด้านงานบริหารอาคารและงานบริหารงานวิศวกรรมอาคาร
บริษัทเชื่อว่าจะสามารถเจาะเข้าสู่ตลาด Blue Ocean หรือ ตลาดอาคารสำนักงานที่บริหารจัดการเอง (In-sourcing) และอาคารเพื่อการศึกษา ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 70% ของจำนวนอาคารทั้งหมด รวมมูลค่าประมาณ 840 ล้านบาทได้ในไม่ช้า ส่งผลให้ประมาณการรายได้ของบริษัทในปี 54 จะมีอัตราเติบโตประมาณ 10%
นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นสานต่อการพัฒนาบุคลากรมืออาชีพด้านธุรกิจบริหารทรัพยากรอาคาร โดยยังคงร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายความรู้ความเข้าใจที่มีต่องานบริหารอาคารให้มากขึ้นเพื่อผลักดันให้สังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารทรัพยากรอาคารที่ได้มาตรฐานอันจะส่งผลถึงความปลอดภัย รวมถึงการใช้ทรัพยากรพลังงานที่คุ้มค่าต่อไป
นายชาญ กล่าวว่า ปัจจุบัน พลัสฯ บริหารอาคารจำนวน 35 อาคารในกทม เนื้อที่รวมประมาณ 1.5 ล้าน ตร.ม.ยังมีมาร์เก้ตแชร์เป็น 1 ใน 3 ของตลาดรวม Outsourcing ที่มีมูลค่าราว 360 ล้านบาทในปี 52 และในปี 54 จะมีอาคารใหม่เพิ่มขึ้นมา โดยเฉพาะอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ได้แก่ ปาร์คเวนเจอร์, เคพีไอ ทาวเวอร์ ทำให้มีพื้นที่ใหม่เข้ามาในตลาดจำนวนมาก
สำหรับปัจจัยที่เป็นบวกของปีนี้ มาจากเศรษฐกิจโดยรวมที่โตต่อเนื่องจากที่คาดว่าจีดีพีจะเติบโต 4.5% เชื่อว่าต้องมีการเปิดบริษัทเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีความต้องการพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดอาคารสำนักงานขยายพื้นที่เปิดตัวใหม่ การแข่งขันก็จะสูง และค่าเช่าก็จะสูงมากขึ้น ขณะที่อาคารส่วนใหญ่ที่มีอายุ 10 กว่าปีขึ้นไป ซึ่งไม่ทันสมัยก็จำเป็นต้องหาผู้ชำนาญงานดูแลโครงการที่มีประสบการณ์ ซึ่งพลัสก็มีความพร้อมในการรับงานดังกล่าว