ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกเหตุจลาจลในอียิปต์ ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 166.13 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday January 29, 2011 07:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุจลาจลในประเทศอียิปต์ นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดยังถูกกระทบจากมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4 ปี 2553 ของสหรัฐ ที่ขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 166.13 จุด หรือ 1.39% ปิดที่ 11,823.70 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 23.20 จุด หรือ 1.79% ปิดที่ 1,276.34 จุด ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 68.39 จุด หรือ 2.48% ปิดที่ 2,686.89 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.35 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงทั้งสิ้น 0.4% ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.5% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 0.1%

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์จลาจลในอียิปต์อันเนื่องมาจากการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัคนั้น ส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง รวมถึงหุ้น โดยล่าสุดมีรายงานว่า รัฐบาลอียิปต์ได้สั่งให้กองกำลังทหารเข้าควบคุมสถานการณ์และสลายการชุมนุมโดยใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง จนเป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันรุนแรงจนถึงขั้นเผาสำนักงานใหญ่ของพรรครัฐบาล

การสั่งสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรงในอียิปต์ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับตลาดการเงินทั่วโลก โดยดัชนี MSCI World Market Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นทั่วโลก ดิ่งลง 1.4% ส่วนตลาดหุ้นอียิปต์ประกาศปิดทำการซื้อขายในวันศุกร์ นอกจากนี้ ความไม่สงบในอียิปต์ยังส่งผลให้เกิดความกังวลว่า เหตุการณ์รุนแรงในประเทศอื่นๆเช่นตูนิเซีย เยเมน และเยเมน จะทวีความรุนแรงขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังถูกกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า จีดีพีไตรมาส 4 ปี 2553 ขยายตัวในอัตรา 3.2% ต่อปี ซึ่งแม้ว่าเป็นการขยายตัวมากกว่าระดับ 2.6% ของไตรมาส 3 แต่ก็ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 3.5% ส่วนจีดีพีตลอดปี 2553 ของสหรัฐ ขยายตัว 2.9%

หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ปิดร่วง 13% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีท หุ้น Amazon.com ปิดลบ 7% หลังจากบริษัทรายงานผลกำไรลดลงอันเนื่องมากจากต้นทุนที่สูงขึ้น

หุ้นไมโครซอฟท์ คอร์ป ปิดร่วง 4% หลังจากบริษัทระบุว่า ความสามารถในการทำกำไรของระบบปฏิบัติการ Window ชะลอตัวลง แม้ผลประกอบการโดยรวมในรอบบัญชีเดือนต.ค.-ธ.ค.ปี 2553 เพิ่มขึ้น 5% แตะที่ 1.995 หมื่นล้านดอลลาร์ก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ