บลจ.ทิสโก้ ออกกองทุนลงทุนหุ้น มูลค่า 1 พันลบ.อายุ 1 ปี คาดผลตอบแทน 11%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 1, 2011 10:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บลจ. ทิสโก้ เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ เซ็ท อิควิตี้ ทริกเกอร์ 11%" เป็นกองทุนหุ้นที่เน้นลงทุนในหุ้นไทย ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี โดยตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 11% มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยจะเสนอขายครั้งเดียววันที่ 1-8 ก.พ.54 มูลค่าซื้อขั้นต่ำ 20,000 บาท อายุโครงการประมาณ 1 ปี หรือสามารถเลิกกองทุนก่อนครบกำหนดอายุโครงการ หากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 11% หรือ NAV มีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 11.1000 บาท โดยบริษัทจัดการจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมดในวันทำการที่ 5 นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่กองทุนสร้างผลตอบแทนถึง 11%

โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารทุน ที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนในหุ้น โดยมุ่งหวังผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับจากเงินปันผลหรือกำไรส่วนเกินทุนจากการลงทุนในหุ้น ทั้งนี้ผู้ลงทุนควรมีความเข้าใจและสามารถยอมรับความเสี่ยงของการลงทุนได้

“การเคลื่อนไหวของดัชนีหลักทรัพย์ในช่วงนี้แม้ว่าจะยังคงมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดในประเทศอื่น ๆ จึงไม่น่ากังวลอะไร แต่ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจของไทยที่ยังแข็งแกร่งประกอบกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ อีกทั้งในช่วงนี้ดัชนีหลักทรัพย์ยังคงอ่อนตัวลง จึงนับเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทน ซึ่งกองทุนเปิด ทิสโก้ เซ็ท อิควิตี้ ทริกเกอร์ 11% ที่เราได้เสนอขายในครั้งนี้ก็นับเป็นอีกทางเลือกที่ดี ที่จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับนักลงทุน โดยกองทุนดังกล่าวเราได้ตั้งเป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 11%" นายธีรนาถ กล่าว

นายธีรนาถ กล่าวถึงภาพรวมของตลาดหุ้นไทยในปี 54 ยังคงมีสัญญาณในเชิงบวกคอยสนับสนุนอยู่ในหลายด้าน ทั้งการเลือกตั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ รวมถึงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการใช้นโยบายแบบขาดดุล ซึ่งถึงแม้ว่าผลการเลือกตั้งออกมาจะเป็นอย่างไร ก็เชื่อว่ารัฐบาลที่เข้ามาใหม่จะยังคงสานต่อแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป จึงทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะยังอยู่ในระดับที่ดี อีกทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และยังเข้าใกล้ช่วงฤดูกาลจ่ายปันผล ทำให้ภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์มีความคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ