EASTWคาดปี 54 รายได้-กำไรโตตามปริมาณการใช้น้ำเพิ่ม 10%,ลงทุนขยายประปา

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 1, 2011 15:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนำศักดิ์ วรรณวิสูตร ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า คาดว่าในปี 54 ปริมาณการใช้น้ำน่าจะเพิ่มขึ้นจากปี 53 ประมาณ 10% ซึ่งน่าจะส่งผลต่อรายได้และกำไรสุทธิเติบโตได้ต่อเนื่องจากปี 53 และสอดคล้องกับปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ยังมีความต้องการใช้น้ำมากขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการใช้น้ำประปา

สำหรับในปี 53 คาดว่ารายได้ของบริษัทเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้ที่ 13-15% จากปี 52 ที่มีรายได้ 2,800 ล้านบาท หลังจากปริมาณการใช้น้ำดิบในปี 53 ปรับเพิ่มขึ้น 11% หรือคิดเป็น 240 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปี 52 ที่ปริมาณการใช้น้ำอยู่ที่ 220.71 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นมาจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่เริ่มทยอยทดสอบการผลิตแล้ว หลังจากศาลปกครองมีคำสั่งให้ชะลอโครงการก่อนหน้านี้

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ทั้งหมด มาจากการขายน้ำดิบ 68% น้ำประปา 23% และค่าเช่าอาคาร-สำนักงาน 8%

"คาดว่ากำไรไตรมาส 4/53 น่าจะใกล้เคียงไตรมาส 3/53 หลังจากปริมาณการใช้น้ำในไตรมาส 4 ดีขึ้น มีลูกค้าใหม่ใช้น้ำมากขึ้น เพราะมีลูกค้าของโรงบำบัดน้ำของการประปาภูมิภาค ทำให้การใช้น้ำดีขึ้น" นายนำศักดิ์ กล่าว

นายนำศักดิ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุนงวดสุดท้าย 700 ล้านบาท ในการลงุทนขยายท่อในโครงการหนองปลาไหล-มาบตาพุด เส้นที่ 3 จากมูลค่าลงทุนรวม 2,100 ล้านบาท คาดว่าการวางท่อจะแล้วเสร็จในปลายปี 54 และเริ่มเดินเครื่องเพิ่มปริมาณการสูบน้ำได้ในต้นปี 55 โดยจะมีกำลังสูบน้ำ 110 ล้านลูกบาศก์เมตร และลงทุนขยายกำลังการผลิต อีก 100 ล้านบาท ในธุรกิจประปาในส่วนที่มีสัญญาสัมปทาน

อย่างไรก็ตามในปี 54 บริษัทยังไม่มีการปรับเพิ่มราคาขายน้ำดิบ เนื่องจากบริษัทยังสามารถควบคุมต้นทุนได้ ส่วนราคาน้ำประปาจะมีการปรับเพิ่มตามอัตราเงินเฟ้อ (CPI) ซึ่งจะมีการตกลงเป็นการภายในกับหน่วยงานที่ทำสัญญาไว้อยู่แล้ว

และในปีนี้ บริษัทคงต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอาจมีผลต่อปริมาณน้ำ ซึ่งปีนี้อากาศหนาวค่อนข้างนาน ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณใดๆ เกิดขึ้นได้ ทำให้ต้องมีการติดตามสัญญาณการใช้น้ำและภาวะอากาศต่อเนื่อง

"เราไม่ห่วงเรื่องการขายน้ำ แต่เป็นห่วงเรื่องแหล่งน้ำมากกว่า เพราะภาวะอากาศที่ผันผวน ทำให้บริษัทต้องหาแหล่งน้ำสำรองและบริการจัดการแหล่งน้ำให้เพียงพอและมั่นใจว่าสนองตอบความต้องการของลูกค้าได้" นายนำศักดิ์ กล่าว

นายนำศักดิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็กทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ , โซล่าร์เซล , Bio- Gas โดยจะเป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนเป็นหลักสิบล้านบาท คาดว่าภายในปี 54 น่าจะมีข้อสรุป โดยจะมีการพิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการลงทุนหลายๆ รูปแบบ รวมถึงต้องรอดูนโยบายจากรัฐบาลด้วย

โดยแนวคิดการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า เพื่อลดความเสี่ยงการลงทุนในธุรกิจน้ำ ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก เนื่องจากในการผลิตน้ำ บริษัทต้องใช้ไฟฟ้าในการสูบน้ำเป็นต้นทุนการผลิต ดังนั้นหากมีโรงไฟฟ้า ก็ถือเป็นการ offset กันได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ