"เชาว์สตีลฯ"คาดยอดขายปี 54 โต 2 หลักจากผลปรับประสิทธิภาพผลิต-วัตถุดิบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 1, 2011 16:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ (CHOW) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยาว (Billet) มั่นใจว่า ผลประกอบการในปี 54 จะเป็นปีที่ดีที่บริษัทฯ มีโอกาสในการเติบโตเป็นเลข 2 หลักทั้งในแง่ของยอดขายและปริมาณ หลังเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและการจัดการวัตถุดิบ รวมถึงการขนส่งสินค้าที่ปรับลดค่าใช้จ่ายลงมา

แม้ว่าขณะนี้แนวโน้มของต้นทุนวัตถุดิบที่เป็นเศษเหล็กและสินแร่เหล็กในตลาดมีราคาสูงขึ้นถึง 20% ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการเพิ่มสูงขึ้น แต่ในส่วนของบริษัทฯ ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวมากนัก เนื่องจากบริษัทฯ มีระบบการบริหารจัดการด้านจัดซื้อวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์หลายราย โดยจะพิจารณาราคาที่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ให้มากที่สุด

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตสินค้าของทางโรงงานโดยสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวสินค้าและสามารถลดความสูญเสียจากกระบวนการผลิตในขั้นตอนของการหล่อเย็น ที่มีผลทำให้เหล็กแตกหรือโค้งงอไม่ได้มาตรฐานลดลงในระดับต่ำกว่า 1% จากเดิมที่เคยสูงถึง 5%

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เชาว์ สตีลฯ กล่าวด้วยว่า การปรับกระบวนการผลิตครั้งนี้ ยังส่งผลดีต่อกลุ่มลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าจากทางบริษัทฯ ที่มีความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้ามากขึ้น ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่ต้องการนำเหล็กแท่งยาวไปผลิตแปรรูปเป็นเหล็กเส้น เหล็กกลม เหล็กข้ออ้อยและเหล็กรูปตัวซี ในอุตสาหกรรมการก่อสร้างของไทยและต่างประเทศ จึงได้มีแผนเพิ่มปริมาณการผลิตในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 3 แสนตันต่อปี จากกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 7.3 แสนตัน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้บริหารจัดการด้านการขนส่งเพื่อรองรับกับการผลิตและความต้องการเหล็กที่เพิ่มสูงขึ้น โดยได้ร่วมลงทุนก่อตั้งในบริษัทโลจิสติคส์ ชื่อ บริษัท เวอเทค โลจิสติคส์ เซอร์วิส จำกัด ในสัดส่วนการถือหุ้น 40% ซึ่งมีรถบรรทุกขนาดใหญ่จำนวน 30 คันรองรับการขนส่งสินค้าได้เฉลี่ยวันละ 1,000 ตัน ทั้งนี้จะช่วยให้การบริหารจัดการด้านการขนส่งสินค้าได้ตรงต่อเวลาและทันต่อความต้องการของลูกค้า สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งลงได้กว่า 10% จากเดิมที่ต้นทุนการขนส่งโดยเฉลี่ยอยู่ในอัตรา 260-280 บาทต่อตัน และยังมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจการขนส่งสินค้าอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ