ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 148.23 จุด ขานรับภาคการผลิตสหรัฐแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 2, 2011 06:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) ขานรับดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวเกินคาดของสหรัฐ และผลประกอบการที่แข็งแกร่งในภาคเอกชน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 148.23 จุด หรือ 1.25% ปิดที่ 12,040.16 จุด ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 21.47 จุด หรือ 1.67% ปิดที่ 1,307.59 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 51.11 จุด หรือ 1.89% ปิดที่ 2,751.19 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ทะยานขึ้นปิดที่ระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2551 นอกจากนี้ S&P 500 ยังดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,300 จุดได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง ขานรับข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการเติบโตของภาคการผลิตและเศรษฐกิจสหรัฐ

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.ขยายตัวที่ระดับ 60.8 จุด พุ่งขึ้นจากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 58.5 จุด และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 58 จุด และทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 18

ภาคการผลิตยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้ขยายตัวต่อไปได้ โดยมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2553 ของสหรัฐขยายตัว 3.2% ต่อปี มากกว่าระดับ 2.6% ของไตรมาส 3 ส่วนจีดีพีตลอดปี 2553 ของสหรัฐ ขยายตัว 2.9% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2548

นอกจากนี้ ตลาดยังพุ่งขึ้นขานรับผลประกอบของบริษัทเอกชน โดยหุ้นไฟเซอร์ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่พุ่งขึ้นเกือบ 5.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 4 ที่พุ่งขึ้นถึง 3 เท่า และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีท

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ดีดตัวขึ้นเช่นกัน หลังจากเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) เปิดเผยว่าบริษัทสามารถทำยอดขายในตลาดสหรัฐ 178,896 คันในเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 21.8% ขณะที่ฟอร์ด มอร์เตอร์ ทำยอดขายพุ่งขึ้น 23.3% ในเดือนม.ค.

ตลอดปี 2553 ที่ผ่านมา จีเอ็มยังคงครองแชมป์อันดับ 1 ในตลาดสหรัฐ ด้วยยอดขายที่พุ่งขึ้น 7.2% เป็น 2,211,091 คัน ตามมาด้วยอันดับ 2 คือ ฟอร์ด มอเตอร์ ที่ทำยอดขายเพิ่มขึ้น 19.5% เป็น 1,931,534 คัน

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกดดันในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมก่อสร้างเดือนธ.ค.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น

ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลง 1.42 ดอลลาร์ แตะที่ 90.77 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อ 2 วันก่อนหน้านั้น อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในอียิปต์

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ADP Employer Services เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนม.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สถาบันจัด ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนม.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนธ.ค.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 103,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ 9.5% ในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นจาก 9.4% ในเดือนธ.ค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ