ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 4 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) ขานรับรายงานดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวแข็งแกร่งของอังกฤษและสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากกองทัพอียิปต์ยืนยันว่าจะไม่สลายการชุมนุมในกรุงไคโรด้วยวิธีการที่รุนแรง ในขณะการชุมนุมประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ได้ย่างเข้าสู่วันที่ 8 แล้ว
ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 94.88 จุด หรือ 1.62% ปิดที่ 5,957.82 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,862.94 - 5,963.72 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนทะยานขึ้นขานรับรายงานของมาร์กิต อิโคโนมิคส์ที่ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของอังกฤษในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 62 จุด จากระดับ 58.7 จุดของเดือนธ.ค. เนื่องจากยอดส่งออกและอุปสงค์ภายในประเทศที่ขยายตัวแข็งแกร่ง
ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.ขยายตัวที่ระดับ 60.8 จุด พุ่งขึ้นจากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 58.5 จุด และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 58 จุด และทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 18 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐ
ข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้น โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดพุ่งกว่า 2.1% หุ้นแองโกล อเมริกันปิดพุ่ง 3.4% หุ้นริโอทินโตปิดพุ่ง 1.5% โดยราคาโลหะทองแดงในตลาดลอนดอนทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9,955 ดอลลาร์ต่อัน
หุ้นเออาร์เอ็ม ซึ่งเป็นผู้ออกแบบเซมิคอนดัคเตอร์ที่ใช้ในสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ รวมถึงไอโฟน พุ่งขึ้น 6.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาส 4 ทะยานขึ้น 72% เนื่องจากยอดขายชิพที่ใช้ในแท็บเลตคอมพิวเตอร์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น