ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นถ้วนหน้าเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) ขานรับรายงานดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวแข็งแกร่งทั้งในสหรัฐ จีน และอังกฤษ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเรื่องแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้น 106.79 จุด หรือ 1.51% ปิดที่ 7,184.27 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 7,105.31 -7,190.75 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสพุ่งขึ้น 67.12 จุด หรือ 1.68% ปิดที่ 4,072.62 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,019.34-4,078.48
ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 94.88 จุด หรือ 1.62% ปิดที่ 5,957.82 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,862.94 - 5,963.72 จุด
ส่วน Stoxx Europe 600 Index พุ่งขึ้น 1.5% ปิดที่ 284.20 จุด และดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพในยุโรปพุ่งขึ้น 16.27 จุด หรือ 1.42% ปิดที่ 1,159.80 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปทะยานขึ้นทุกตลาด หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.ขยายตัวที่ระดับ 60.8 จุด พุ่งขึ้นจากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 58.5 จุด และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 58 จุด และทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 18
ขณะที่สมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีน (CFLP) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนม.ค.ขยายตัวที่ระดับ 52.9 จุด และมาร์กิต อิโคโนมิคส์ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของอังกฤษในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 62 จุด จากระดับ 58.7 จุดของเดือนธ.ค. ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน นำหุ้นกลุ่มตัวอื่นๆในกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้น หลังจากราคาทองแดงในตลาดลอนดอนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
หุ้นเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ พุ่งขึ้น 7.7% ขณะที่หุ้นอีเอฟจี ยูโรแบงก์ เออร์กาเซียส์ เอสเอ พุ่งขึ้น 11% ส่วนหุ้นพับลิค เพาเวอร์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่สุดของกรีซ พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากเครดิตสวิสปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
หุ้นเออาร์เอ็ม ซึ่งเป็นผู้ออกแบบเซมิคอนดัคเตอร์ที่ใช้ในสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ รวมถึงไอโฟน พุ่งขึ้น 6.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาส 4 ทะยานขึ้น 72% และหุ้นอินฟิเนออง ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพรายใหญ่อันดับสองของยุโรป พุ่งขึ้น 1.3% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการปี 2553